หลากพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงในการใช้รถยนต์

ครั้งนี้ทีมงานได้รวบรวมพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงในการใช้รถยนต์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งรถยนต์คันโปรดของเรา รวมไปถึงผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อให้การใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกัน…

เปิดไฟฉุกเฉินขณะที่รถวิ่ง หรือตอนฝนตก

เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่จะสร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นต่อผู้ใช้รถคนอื่นบนท้องถนน เพราะนั้นอาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่ารถของคุณกำลังจอดอยู่ หรือในจังหวะที่คุณเปิดไฟเลี้ยวเพื่อให้สัญญาณก่อนเปลี่ยนเลน หากคุณเปิดไฟฉุกเฉินอยู่รถที่ตามมาด้านหลังก็อาจสังเกจได้ยากว่าคุณกำลังให้สัญญาณไฟเลี้ยวอยู่ เพราะฉะนั้นวิธีที่ควรปฎิบัติในขณะที่ต้องขับขี่ฝ่าสภาพอากาศที่ไม่ดีหรือฝนตกนั้น ควรใช้การเปิดไฟหรี่หรือไฟหน้าและไฟท้ายแทน หรือในช่วงเวลาที่ทัศนวิสัยแย่มากๆ ก็แนะนำให้เปิดไฟตัดหมอกช่วยทั้งด้านหน้าและหลังของรถยนต์เรา หรือวิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการหาที่จอดรถที่ปลอดภัยเพื่อรอให้ทัศนวิสัยกลับมาปกติเสียก่อน

เปิดไฟสูงตลอดเส้นทาง

ในยามที่ต้องขับขี่ในเวลากลางคืนถนนหลายเส้นในต่างจังหวัดอาจไม่มีไฟส่องทางรวมไปถึงเส้นทางการจราจรอาจไม่ได้ชัดเจนนัก การเปิดไฟสูงจึงเป็นการช่วยเพิ่มทัศนวิสัยได้ในยามต้องขับขี่เวลากลางคืน หากแต่เมื่อสังเกตพบว่ามีรถอื่นใดๆ ขับสวนเลนมา ควรรีบลดไฟสูงลงเพื่อหลีกเลี่ยงการส่องไฟไปรบกวนการมองเห็นของรถที่สวนมาเพื่อความปลอดภัย ซึ่งในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ปัจจุบันไม่น้อยที่เริ่มมีการติดตั้งระบบอัตโนมัติในส่วนของการเปิดและปิดไฟสูงมาให้ ก็นับเป็นอีกตัวช่วยความปลอดภัยที่ดีมากยิ่งขึ้น

ไฟตัดหมอกหลัง เปิดใช้โดยไม่จำเป็น

จากข้อแรกที่เราได้แนะนำว่าหากทัศนวิสัยในการขับขี่แย่มากหรือขับขี่ในช่วงเวลาที่ฝนตกหนักการเปิดไฟตัดหมอกก็ช่วยทำให้รถยนต์คันอื่นร่วมท้องถนนกับเราสามารถสังเกตเห็นเราได้ แต่เมื่อทัศนวิสัยปกติสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วการเปิดไฟตัดหมอกก็จะเป็นการรบกวนสายตาผู้ขับขี่คนอื่นอย่างมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะเวลากลางคืน เพราะฉะนั้นเราควรงดใช้ไฟตัดหมอกในยามที่ทัศนวิสัยปกตินั้นเอง

ไม่เปิดไฟเลี้ยว

ไฟเลี้ยวเป็นสัญญาณบอกเวลาจะเลี้ยวรถ ถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ถูกติดตั้งในรถทุกคัน หลายๆ คนอาจจะคิดว่าไม่สำคัญเวลาจะเลี้ยวก็ไม่ต้องเปิดก็ได้ บางทีไม่เห็นจะมีรถเลย แต่การที่เราเปิดไฟเลี้ยวสัญญาณก่อนเลี้ยวทุกครั้งจะทำให้เราคุ้นชินเป็นนิสัย และที่สำคัญยังช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้อีกด้วย ยกตัวอย่างง่ายๆ ในจังหวะที่ต้องการเปลี่ยนเลน หากไม่เปิดไฟเลี้ยวก่อน อาจทำให้ผู้ขับขี่ที่อยู่ในเลนที่เรากำลังจะเปลี่ยนไปนั้นไม่ทันระมัดระวัง และอาจเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ขับขี่ท่านนั้นอาจจะเร่งเครื่องยนต์ขึ้นมาพร้อมกันกับที่เราเปลี่ยนเลนออกมา ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้

ปล่อยให้น้ำมันใกล้หมดถังบ่อยๆ

เป็นอีกเรื่องที่มักเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือตั้งใจอยู่บ่อยๆ การปล่อยให้น้ำมันใกล้หมดถังตั้งแต่ที่มีสัญญาณแจ้งเตือนบนหน้าปัดแล้วยังไม่เติมน้ำมันให้เร็วที่สุด และใช้รถจนเครื่องยนต์ดับ ทั้งหมดนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบภายในของรถยนต์ รวมไปถึงความไม่ปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นกับเราได้ ยกตัวอย่างเช่นหากรถยนต์คุณเกิดดับจากน้ำมันหมด ในขณะที่กำลังวิ่งอยู่ต่างจังหวัดหรือเส้นทางเปลี่ยวๆ เพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าเป็นความไม่ปลอดภัยสูงสุดแล้ว ส่งผลโดยตรงจากการที่ต้องเสียเวลาและความเสี่ยงต่อผู้ใช้ถนนคนอื่นที่อาจวิ่งมาแล้วไม่ทันเห็นคุณ หรือความไม่ปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น และหากพูดถึงด้านความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณได้นั้น อาจส่งผลถึงชิ้นส่วนที่เรียกว่าปั้มติ๊กในถังน้ำมันอาจเสื่อมเร็วกว่าปกติได้

ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

การคาดเข็มขัดนิรภัยนับเป็นสิ่งที่ควรปฎิบัติก่อนออกรถทุกครั้ง เพื่อเป็นตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เพราะถ้าหากประสบอุบัติเหตุ และไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยแล้วความเสียหายและความเสี่ยงต่อชีวิตก็จะเพิ่มขึ้นสูง ซึ่งอาจทำให้ส่งผลต่อความไม่ปลอดภัยขึ้นได้

เล่นโทรศัพท์ขณะขับรถ

ถือเป็นพฤติกรรมที่พบได้เป็นประจำบนท้องถนน กับการเล่นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในขณะที่กำลังขับรถอยู่ แม้ว่าหลายๆ คน อาจบอกว่าเล่นเฉพาะตอนที่รถติดๆ แต่ถ้าหากเล่นจนเผลอลืมไปว่ากำลังปล่อยให้รถไหลไปด้านหน้า หรือรถคันหน้าเกิดเบรกกะทันหันขึ้นมาแล้ว ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขับรถชนคันหน้าได้ เพราะฉะนั้นหากมีความจำเป็นจริงๆ ที่ต้องใช้งานโทรศัพท์ควรจอดรถในที่ปลอดภัยเสียก่อน

ดูหนัง ดูทีวี หรือเปิดวีดีโอขณะขับรถ

มีหลายท่านไม่น้อยที่รถยนต์ของตัวเองนั้นมีระบบความบันเทิงในรถยนต์ที่สามารถเปิดดูวีดีโอได้ผ่านหน้าจอกลางขณะขับขี่ หรือแม้แต่การเปิดดูจากสมาร์ทโฟน ซึ่งการดูวีดีโอในขณะที่ขับขี่ไปด้วยอาจทำให้เราไม่โฟกัสไปที่ถนน และนั้นเองอุบัติเหตุก็จะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อทีมีการละสายตา สังเกตได้ว่าระบบความบันเทิงเหล่านี้หากเป็นการติดตั้งมาให้จากค่ายรถยนต์ ก็จะถูกตั้งค่าล็อคไว้ให้ไม่สามารถดูวีดีโอได้ในขณะที่รถวิ่ง ทั้งหมดก็คือเหตุผลเรื่องของความปลอดภัยนั้นเอง

เครดิต www.autodeft.com