รถยนต์เมื่อใช้ไปนานๆ ก็ย่อมมีการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา คนที่ใช้รถมานานหลายปี อาจรู้สึกว่าทำไมเครื่องยนต์อืดลงกว่าเดิม เร่งไม่ทันใจเหมือนสมัยถอยป้ายแดงออกมาใหม่ๆ แต่รู้ไหมว่ามันมีวิธีกู้แรงม้าให้กลับมาแรงเหมือนเดิมด้วยนะ..!

     ขอแนะนำ 3 สิ่งที่ควรเปลี่ยนเพื่อเรียกกำลังเครื่องยนต์รถเก่าให้กลับมาแรงเหมือนรถใหม่ จะมีอะไรบ้าง?

     1.น้ำมันเครื่อง+ไส้กรอง

     งบประมาณ 1,000 – 2,500 บาท

     หากเป็นรถที่ใช้งานไม่เกิน 100,000 กิโลเมตร ก็มักจะมีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะกันอยู่แล้ว แต่หากพ้นช่วงรับประกันแสนโลขึ้นไป บางคนอาจละเลยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ และมีสิ่งสกปรกติดค้างอยู่ในห้องเครื่อง รวมถึงไส้กรองน้ำมันเครื่องราคาไม่กี่ร้อยบาทนี่แหละ ที่ช่วยดักจับสิ่งแปลกปลอมจำพวกโลหะ ช่วยป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ในระยะยาว

     ดังนั้น จึงควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่องเมื่อถึงกำหนด (โดยปกติจะมีระยะทุก 10,000 กิโลเมตร) เนื่องจากสารชะล้างเขม่าในน้ำมันเครื่องจะช่วยลดคราบยางเหนียวที่ติดอยู่ในห้องเครื่อง ส่งผลให้เรียกกำลังกลับคืนมาได้ครับ

     2.ไส้กรองอากาศ

     งบประมาณ 300 – 1,000 บาท

     เครื่องยนต์สันดาปที่ใช้กันโดยทั่วไป จำเป็นต้องได้รับปริมาณอากาศที่เพียงพอสำหรับการจุดระเบิดอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ไส้กรองอากาศมีการอุดตันของฝุ่นจนไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี จะส่งผลให้กำลังเครื่องยนต์ลดลง เราจึงควรเป่าหรือเปลี่ยนไส้กรองตามที่เห็นสมควร รวมถึงนำเศษใบไม้ที่อาจเข้าไปอยู่ในกล่องไส้กรองอากาศออกให้หมด เพื่อให้เครื่องยนต์ได้รับอากาศอย่างเต็มที่ 

     3.หัวเทียน

     งบประมาณ อันละ 60-800 บาท

     หัวเทียนในเครื่องยนต์เบนซินมีหน้าที่ในการจุดระเบิด ซึ่งหัวเทียนเมื่อใช้ไปนานๆ จะมีการสึกกร่อนบริเวณแกนและเขี้ยว ทำให้หัวเทียนจุดประกายไฟไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เครื่องยนต์สะดุด กำลังเครื่องยนต์ตก และกินน้ำมันมากขึ้น ดังนั้น เมื่อรถมีอาการที่ว่านี้ ก็ควรเปลี่ยนหัวเทียนได้แล้ว เมื่อการจุดระเบิดกลับมาสมบูรณ์ ก็จะทำให้กำลังเครื่องมาได้เต็มไงล่ะครับ

     รู้แบบนี้แล้ว หากรถใครมีอาการเร่งไม่ขึ้น เครื่องอืด กินน้ำมันกว่าปกติ ประกอบกับห่างหายจากการเข้าศูนย์มานาน ลองเปลี่ยน 3 สิ่งที่ว่านี้จะช่วยให้รถกลับมาแรงเหมือนใหม่ได้ครับ