กรองเปลือยดีอย่างไร ใส่แล้ววิ่งดีขึ้นจริงหรือไม่ มาชมกัน

          สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาพบกับเกร็ดความรู้ดีๆในเรื่องรถยนต์กันอีกครั้ง วันนี้เราจะพาทุกท่านลองไปวิเคราะห์กันที่ละขั้นตอนซิว่ากรองเปลือยที่เรามักเปลี่ยนกันเป็นของแต่งชิ้นแรกๆในรถเรานั้น เมื่อใส่แล้วมันวิ่งดีขึ้นจริงหรือปล่าวและวิ่งดีขึ้นได้อย่างไร เพราะอะไร หรือ จะได้แค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น เราไปค่อยๆทำความรู้จักกับเจ้ากรองเปลือยนี้กันเลยครับ

           กรองอากาศ หรือ Air Filters เป็นส่วนสำคัญในระบบประจุอากาศให้กับเครื่องยนต์ของเราครับ โดยหน้าที่หลักๆของมันก็คือกรองเอาฝุ่นผงที่ปะปนมากับอากาศให้ติดอยู่กับเจ้ากรองเพื่อให้อากาศที่เข้ามาในเครื่องยนต์ของเรานั้นบริสุทธิมากที่สุดนั้นเอง เศษแลฝุ่นผงละอองต่างๆจะได้ไม่เข้าไปทำลายชิ้นส่วนต่างๆภายในเครื่องยนต์ของเรานั่นเองครับ

              ซึ่งกรองอากาศที่เราเห็นกันทั่วๆไปนั้นจะเป็นไส้กรองที่นิยมทำมาจากกระดาษหลายๆแผ่นซ้อนกันหรือทำจากใยสังเคราะห์ชนิดต่างๆ บรรจุอยู่ในหม้อกรองอากาศแบบปิดซึ่งก็มีออกมาหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเจ้าหม้อกรองพวกนี้ก็ช่วยทำหน้าที่ลดเสียงดังของเครื่องยนต์และสร้างไว้เพื่อให้เปิดออกมาทำความสะอาดได้ง่ายซึ่งกรองอากาศที่เราใช้กันอยู่นี้เราจะเรียกว่ากรองอากาศแบบแห้ง ซึ่งก็จะมีกรองอากาศอีกรูปแบบหนึ่งที่เป็นกรองอากาศแบบเปียก ที่เป็นแบบสมัยก่อนที่นิยมใช้กันคือเป็นกรองอากาศที่ทำจากตาข่ายสแตนเลส ติดตั้งอยู่ในหม้อกรองแบบปิดและจะมีน้ำมันอยู่รอบๆ ซึ่งน้้ำมันนั้นก็จะทำหน้าที่ดักจับฝุ่นละอองให้ตกลงไปซึ่งกรองอากาศพวกนี้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไส้กรองแต่ต้องเปลี่ยนน้ำมันและล้างบ่อยๆนั่นเองครับ ซึ่งสมัยนี้ก็ไม่ค่อยมีให้เห็นกันแล้ว

           มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับหลังจากที่เกริ่นไปกันเยอะแล้ว จริงๆแล้วการเปลี่ยนมาใช้กรองอากาศแบบเปลืองนั้นต้องคำนึงถึงขนาดและเนื้อที่ที่จะติดตั้งซะก่อนเป็นอันดับแรกว่ามีเนื้อที่มากน้อยเพียงใด ในส่วนของเครื่องยนต์แบบ NA นั้นความจะเปลี่ยนไปใช้กรองที่สามารถเปลี่ยนแทนของเดิมได้เลย ส่วนเครื่งยนต์เทอร์โบที่ได้รับการโมดิฟายนั้นก็ควรใส่กรองเปลือยขนาดใหญ่ขึ้นซักหน่อยเพราะเครื่องยนต์ต้องการอากาศที่มากขึ้นนั่นเองครับ
 

มาถึงปัญหาหลักๆหลังจากที่เราติดตั้งและเปลี่ยนไปใช้กรองเปลือยกันบ้างครับ

  1. แรงตกในรอบต้น ส่วนมากมักเกิดจาก การไหลของอากาศที่เร็วเกินไปและดีเกินไป ซึ่งจะทำให้อากาศเข้ามากแต่น้ำมันน้อย เพราะรถจากโรงงานมักจะปรับน้ำมันมาให้เหมาะกับกรองอากาศเดิม อากาศที่ไหลเข้าเร็กว่าในรอบต่ำจึงทำให้เครื่องยนต์สูญเสียกำลังนั่นเอง
  2. แรงตกในรอบปลายและกินน้ำมัน ส่วนมากมักเกิดจาก การตั้งตั้งในจุดที่รับอากาศร้อนจนเกินไป กรองอากาศลูกเล็กเกินไป ซึ่งทำให้มีส่วนผสมของน้ำมันหนากว่าอากาศที่เข้าไป วิธีการแก้ไขก็แค่เปลี่ยนกรองอากาศให้ได้ขนาดที่พอดีหรือทำ Airbox ให้กรองอากาศของท่าน เพราะอากาศเย็นย่อมมีความหนาแน่นและเผาไหม้ได้ดีกว่านั่นเองครับ
  3. เครื่องยนต์มีกำลังลดลงเรื่อยๆ เกิดจาก ไส้กรองเริ่มจะอุดตันนั่นเอง ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการถอดมาทำความสะอาดหรือเปลี่ยนกรองอากาศใหม่ไปซะเลย ซึ่งถ้าใครเปลี่ยนมาใช้กรองอากาศพวกนี้นั้นก็ต้องสังเกตฝุ่นผงและความสกปรกให้ดีนะครับ ซึ่ง เราแนะนำให้ทำความสะอาดกรองอากาศทุกๆครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ก็จะดีมากๆเลยละครับ
  4. กรองอากาศฉีดขาด เกิดจากการถอดมาทำความสะอาดที่รุ่นแรงไม่ถูกวิธีนั้นเอง ซึ่งกรองอากาศของท่านอาจไปเสียดสีกับอุปกรณ์อื่นๆ หรือมีการอุอัดหนาแน่นจนทำให้ฉีดขาดนั่นเองครับ

เครดิต www.boxzaracing.com