หลอดไฟรถยนต์มีทั้งหมดกี่ประเภท และแต่ละประเภททำงานอย่างไร

         

        หลอดไฟเป็นสิ่งที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งของรถยนต์ เพราะจะช่วยส่องแสงสว่างทั้งในที่มืด และช่วยเพิ่มการมองเห็นของรถที่สวนมา จึงทำให้ต้องพร้อมใช้งานในทุกเมื่อ แต่คุณรู้บ้างหรือไม่ ว่าหลอดไฟแต่ละหลอดเป็นหลอดประเภทไหน และจะใช้งานกับรถประเภทอะไร

เริ่มจากหลอดไฟจะมีทั้งหมด 3 ประเภท คือ

หลอดความร้อน (Incandescent Bulb)

          ซึ่งเป็นหลอดไฟที่มีภายในเป็นสูญญากาศ หรือก๊าซเฉื่อย ที่จะทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟให้ไส้หลอด และเมื่อไส้หลอดเกิดความร้อนก็จะทำให้เกิดแสงสว่างขึ้นมา

 

หลอดฮาโลเจน (Halogen Bulb)

          หลอดฮาโลเจน จะเป็นหลอดที่บรรจุก๊าซฮาโลเจนไว้ข้างใน ซึ่งจะมีการทำงานคือ อนุภาคของทังสเตนที่เกิดขึ้น จะรวมตัวกับก๊าซฮาโลเจน และเคลื่อนตัวโดยความร้อนภายในหลอดไฟไปยังไส้หลอด ซึ่งเมื่ออนุภาคที่รวมตัวกันเคลื่อนตัวเข้าใกล้ใส้หลอดไฟ อนุภาคของทังสเตนก็จะไปจับกับไส้หลอดหรือขาหลอดไฟ ส่วนอนุภาคของก๊าซฮาโลเจนก็จะเคลื่อนตัวไปยังผิวของหลอดแก้ว เพื่อรวมตัวกับอนุภาคของทังสเตนต่อไป ซึ่งการทำงานแบบนี้จะทำให้อนุภาคที่รวมตัวกันเกาะที่ผิวหลอด ทั้งนี้การทำให้เกิดวงจรฮาโลเจนจะต้องรักษาอุณหภูมิของหลอดแก้วให้คงที่ประมาณ 250 องศาเซลเซียส จึงจำเป็นต้องใช้แก้วชนิดพิเศษในการผลิตหลอดแบบนี้

 

หลอดฮาโลเจน จะแบ่งได้ตามาตรฐานดังนี้

  • H1 หลอดชนิดนี้จะใช้กับรถยุโรปเป็นส่วนมาก เช่น BMW, Benz, Volvo และรถญี่ปุ่นรุ่นใหญ่
  • H3 หลอดไฟที่ใช้มากในไฟสปอร์ตไลท์
  • H4 เป็นหลอดไฟหน้าที่รถส่วนใหญ่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ เนื่องจากมี 2 ไส้ คือไฟสูง-ต่ำ อยู่ในหลอดเดียวกัน โดยชั้นบนของไส้หลอดจะมีฝาครอบกันไว้ด้านหนึ่ง ส่วนชั้นล่างมีเฉพาะขดลวดเท่านั้น ด้านนอกมีสามขาสำหรับไฟ สูง/ต่ำ และขั้วดิน (-)
  • H7 จะมีใช้ในรถ Benz หรือรถ BMW บางรุ่นเท่านั้น
  • H11 หลอดไฟที่มีกำลัง 55 W ซึ่งจะพบมากใน Honda Civic และ Isuzu Dmax

 

หลอด HID

          หลอด HID หรือหลอดไฟซีนอน (Xenon) ที่ภายในได้บรรจุก๊าซซีนอนเอาไว้ โดยหลอดนี้จะใช้ใส้หลอดที่ทำจากโลหะทังสเตนในการทำให้เกิดแสงสว่าง ซึ่งหลอด HID จะทำให้เกิดแสงสว่างด้วยการผ่านกระแสไฟแรงสูงไปยังขั้วของตัวนำที่ทำจากโลหะทังสเตน โดยจะมีอุปกรณ์ช่วยในการเพิ่มกระแสไฟ 12 โวลท์ ให้สูงขึ้นไป ถึง 20,000-25,000 โวลท์ ทำให้อิเล็คตรอนทำปฏิกิริยากับก๊าซซีนอน จนเกิดเป็นแสงสว่างขึ้น

 

          คราวนี้คงรู้กันแล้วนะครับ ว่าหลอดไฟแต่ละประเภททำงานกันอย่างไร และหลอดไฟทั้งหมดมีกี่ประเภท ส่วนรถของท่านเป็นไฟแบบไหนเดินไปดูกันได้เลยครับ จะได้ซื้อมาเปลี่ยนเอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งร้าน

เครดิต www.boxzaracing.com