เรียกคืนแรงม้าที่หายไป จะต้องทำอย่างไร?

คิดว่ารถยนต์คู่กายของทุกๆ คนคงจะได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี เพราะกว่าจะซื้อหามาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับหลายๆ คนก็คงได้แค่ดูแลแต่เพียงบางส่วนเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องของเครื่องรถยนต์ล่ะ คงจะต้องพึ่งศูนย์ที่ให้บริการหรือช่างตามร้านทั่วไป ยิ่งเป็นรถยนต์ ที่ถูกใช้งานเป็นเวลานานก็อาจจะมีผลทำให้เครื่องยนต์อืด วิ่งไม่ค่อยออก เสื่อมสภาพตามกาลเวลา แล้วจะทำอย่างไรให้รถที่อืดหรือเรียกง่ายๆ ว่าแรงม้าตก กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมหรือใกล้เคียงมากที่สุด ลองสำรวจสิ่งต่อไปนี้
 
น้ำมันเครื่อง + ไส้กรอง
หากเป็นรถที่ใช้งานไม่เกิน 100,000 กิโลเมตร ก็มักจะมีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะกันอยู่แล้ว แต่หากพ้นช่วงรับประกันหนึ่งแสนกิโลเมตรขึ้นไปล่ะ บางคนอาจจะละเลยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ และมีสิ่งสกปรกติดค้างอยู่ในห้องเครื่อง รวมถึงไส้กรองน้ำมันเครื่องราคาไม่กี่ร้อยบาทนี่แหละ ที่ช่วยดักจับสิ่งแปลกปลอมจำพวกโลหะ ช่วยป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ในระยะยาว ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่องเมื่อถึงกำหนด เนื่องจากสารชะล้างเขม่าในน้ำมันเครื่องจะช่วยลดคราบยางเหนียวที่ติดอยู่ใน ห้องเครื่องทำให้กำลังรถกลับมาได้

 (น้ำมันเครื่อง)

 (ไส้กรองน้ำมันเครื่อง)

หัวเทียน
หัวเทียนในเครื่องยนต์เบนซินมีหน้าที่ในการจุดระเบิด ซึ่งหัวเทียนเมื่อใช้ไปนานๆ จะมีการสึกกร่อนบริเวณแกนและเขี้ยว ทำให้หัวเทียนจุดประกายไฟไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เครื่องยนต์สะดุด กำลังเครื่องยนต์ตก และกินน้ำมันมากขึ้น ดังนั้นเมื่อรถมีอาการที่ว่านี้ก็ถึงเวลาอันสมควรเปลี่ยนหัวเทียนกันสักที เมื่อการจุดระเบิดกลับมาสมบูรณ์ก็จะทำให้กำลังเครื่องมาได้เหมือนดั่งของ ใหม่นั่นเอง

ไส้กรองอากาศ

เครื่องยนต์สันดาปที่ใช้กันโดยทั่วไป จำเป็นต้องได้รับปริมาณอากาศที่เพียงพอสำหรับการจุดระเบิดอย่างมี ประสิทธิภาพ ดังนั้นไส้กรองอากาศมีการอุดตันของฝุ่นจนไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี จะส่งผลทำให้กำลังเครื่องยนต์ลดลง เราจึงควรทำการเป่าหรือเปลี่ยนไส้กรองตามที่เห็นสมควร รวมถึงนำเศษใบไม้ที่อาจเข้าไปอยู่ในกล่องไส้กรองอากาศออกให้หมด เพื่อให้เครื่องยนต์ได้รับอากาศอย่างเต็มที่ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำให้กำลังแรงม้าที่หายไปกลับมาเสมือนใหม่อีกครั้ง

เครดิต www.carvariety.com