การบำรุงรักษารถยนต์ที่มีการใช้งานเชื้อเพลิง 2 ระบบ
สำหรับท่านที่ใช้รถยนต์ที่มีการใช้เชื้อเพลิง 2 ระบบ คือ ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบก๊าซที่เป็น CNG หรือ LPG มีสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ของคุณ
เรื่องแรกที่จะพูดถึงก็คือ รถยนต์ที่เป็นระบบ CNG ซึ่งติดตั้งจากโรงงานของโตโยต้านั้น จะต้องมีการบำรุงรักษาเกี่ยวกับระบบ CNG เช่น กรองก๊าซ ซึ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนทุกๆ 20,000 กิโลเมตร ที่บอกว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนเนื่องจากว่าหากเกิดการอุดตันในระบบการจ่ายก๊าซแล้วนั้น จะทำให้การจ่ายก๊าซไม่เพียงพอกับความต้องการในการใช้งาน หรือไม่เพียงพอต่อความต้องการของกำลังเครื่องยนต์ สาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันหลายท่านก็ยังสงสัยอยู่ว่ามันจะสกปรก และอุดตันได้จากอะไรในเมื่อไม่มีสิ่งแปลกปลอมสามารถที่จะเข้าไปในระบบได้จะมีก็แต่การเติมก๊าซตามสถานีบริการต่างๆ เท่านั้น ผมจึงอยากเรียนให้ทราบเพื่อความกระจ่างกันเลยครับว่าแท้จริงแล้วการอุดตันในระบบ CNG นั้น ไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอกที่จะสามารถเล็ดลอดเข้าไป แต่เกิดจากน้ำมันหล่อลื่นในคอมเพรสเซอร์ของสถานีบริการนั่นเอง ทุกครั้งที่มีการเติมก๊าซเข้าไปก็จะมีน้ำมันหล่อลื่นปะปนเข้าไปด้วยทุกครั้งทำให้เกิดการอุดตันภายในระบบ ซึ่งคุณสมบัติของน้ำมันหล่อลื่นนั้นมีความเหนียว เมื่อเข้าไปเคลือบชิ้นส่วนที่มันเข้าถึงจึงเป็นการปิดช่องทางการไหลของก๊าซเป็นที่มาของการอุดตัน ฉะนั้นแล้วการบำรุงรักษาตามระยะ และเปลี่ยนอะไหล่ให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ อย่าให้ต้องเข้าข่ายที่ว่า เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายเลยนะครับ และขออนุญาตแนะนำว่าอย่าเห็นแก่ของถูกของเทียมเลยครับ เพราะว่าคุณภาพของอะไหล่นั้นแตกต่างกันแบบเปรียบไม่ได้ เหล่าของถูกของเทียมนั้นไม่ได้สามารถช่วยกรองสิ่งสกปรกใดๆ ทำให้สิ่งสกปรกวิ่งตรงเข้าหาหัวฉีด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ เครื่องยนต์สะดุดเดินไม่เรียบ , เร่งไม่ออก และไม่มีกำลัง ซึ่งหากปล่อยไว้ไม่มีการบำรุงรักษาตามที่กำหนดก็จะเกิดการลุกลามไปชิ้นส่วนอื่นๆ อันดับแรกที่จะเกิดความเสียหายก็คือ หัวฉีดก๊าซเกิดการอุดตันซึ่งถ้ามีการอุดตันแล้วได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วหรือทันท่วงทีก็สามารถใช้งานต่อได้ตามปกติ แต่หากมีการปล่อยไว้แล้วมีการฝืนใช้ก็ส่งผลให้หัวฉีดตัน และพังในที่สุด อาจจะต้องเปลี่ยนตัวหัวฉีดก๊าซ ซึ่งแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายสูงกว่าเปลี่ยนกรองก๊าซหลายเท่า
นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่ต้องได้รับการบำรุงรักษา นั่นก็คือ “ถังน้ำมัน” ซึ่งการเติมน้ำมันอย่างถูกวิธีก็ถือเป็นการบำรุงรักษาถังน้ำมันเช่นกัน การใช้งานรถยนต์ระบบ CNG ของโตโยต้านั้น หลายท่านอาจทราบเกี่ยวกับการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงว่า ต้องเติมให้ได้ 1 ส่วน 4 ของถังน้ำมันเชื้อเพลิงหรือไม่ต่ำกว่า 10 ลิตร ซึ่งต้องให้มีน้ำมันในถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ตลอดเวลา เพราะรถยนต์ของโตโยต้าได้รับการออกแบบให้ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานตลอดเวลาที่มีการขับขี่ถึงแม้ในขณะนั้นจะมีการใช้เชื้อเพลิงประเภทก๊าซอยู่ก็ตาม เพื่อที่ว่าเมื่อมีการใช้ก๊าซจนหมด หรือมีการปรับระบบจากก๊าซมาเป็นระบบน้ำมันในขณะขับขี่ ระบบจะตัดให้เครื่องยนต์มาใช้น้ำมันได้โดยไม่มีการสะดุดหรือดับในขณะขับขี่ จึงจำเป็นต้องให้ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานตลอดเวลา และเมื่อปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานตลอดเวลา ก็ต้องมีน้ำมันอยู่ในถังน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อใช้หล่อเลี้ยงและระบายความร้อนให้กับตัวปั้มน้ำมัน หากว่าไม่มีน้ำมันอยู่ในถังน้ำมันเชื้อเพลิงปั้มน้ำมันก็จะทำงานจนเกิดความร้อน และทำให้ตัวปั้มเกิดความเสียหาย ทำให้เสียเงินซ่อมแซมโดยใช่เหตุครับ นอกจากนี้เมื่อปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงเสียก็ส่งผลให้ไม่สามารถสตาร์ทรถได้นะครับ เพราะรถยนต์ของโตโยต้าต้องสตาร์ทด้วยน้ำมันเท่านั้น สำหรับรถยนต์ที่ใช้ระบบเชื้อเพลิง 2 ระบบ คือ ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง และ ระบบก๊าซที่เป็น CNG หรือLPG แต่ไม่ว่าจะเป็น CNG จากโรงงานของโตโยต้าหรือจะเป็น LPG ที่ติดตั้งจากอู่ทั่วไปก็ตาม แน่นอนว่าหากมีการใช้เชื้อเพลิงทางเลือก (ก๊าซ) แล้วนั้น ระบบน้ำมันส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็นทางเลือกที่ 2 โดยปริยาย ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในถังไม่มีการใช้งานหมุนเวียนเติมเข้าและใช้ไป ซึ่งหากมีการเติมเอาไว้ในปริมาณที่มากหรือเต็มถังก็อาจไม่มีปัญหาเรื่องสนิมในถังหรือถังผุ (สำหรับรถยนต์รุ่นเก่าที่เป็นถังโลหะ) เพราะน้ำมันมีการเคลื่อนที่ไปได้ทั่วภายในถัง ผนังภายในถังจึงไม่แห้งและเกิดสนิม แต่หากเติมไม่เต็มถังหรือมีน้ำมันอยู่น้อยตลอดเวลาก็จะเกิดปัญหาดังกล่าวได้ และเมื่อถังเกิดสนิม เศษของสนิมดังกล่าวก็จะหล่นมาปะปนกับน้ำมันที่อยู่ภายในถังทำให้คุณภาพน้ำมันต่ำลง ประสิทธิภาพในการจุดระเบิดก็ต่ำลง ตามไปด้วย และหากว่าน้ำมันมีความสกปรกมากจากสนิมจะส่งผลให้เกิดการอุดตันบริเวณกรองที่ติดอยู่กับตัวปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้ปั้มทำงานหนัก และเกิดความเสียหายกับตัวปั้มได้
สำหรับการเติมน้ำมันในรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงประเภท CNG และ LPG ขอแนะนำว่าหากมีการใช้ระบบก๊าซอยู่เป็นประจำ น้ำมันที่จะเติมไว้ในถังนั้นควรจะเป็นน้ำมันเบนซินแท้ ไม่ใช่น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 หรือแก๊สโซฮอล์ 95 ก็ตาม ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์นั้นมีส่วนผสมของพืช (อ้อยและมันสำปะหลัง) ถ้าเก็บไว้นานๆ ก็จะทำให้คุณภาพและประสิทธิภาพของน้ำมันลดต่ำลงและส่งผลเสียต่างๆ ตามมา สำหรับท่านที่ยังสงสัยว่ารถยนต์ที่มีการใช้ระบบก๊าซเป็นระยะเวลานานเมื่อกลับมาใช้ระบบน้ำมันแล้วเครื่องยนต์เกิดอาการสะดุด, เดินเบาด้วยน้ำมันไม่ได้, ไม่มีกำลัง, สตาร์ทติดยาก (สตาร์ทน้ำมัน) หรือสตาร์ทไม่ติด ควรนำรถของท่านเข้าตรวจเช็คระบบน้ำมันเชื้อเพลิงกันดูบ้างนะครับ เพื่อดูแลบำรุงรักษารถให้มีการใช้งานได้ทนทาน และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ตลอดจนมั่นใจในความปลอดภัยทุกการขับขี่ครับ
เครดิต www.kmotors.co.th