ทำอย่างไร…ถ้ารถเบรกแตกแบบไม่ทันตั้งตัว

‘เบรกแตก’ คือปัญหาน่ากลัวที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเจอ เพราะเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว จากที่เคยเป็นเจ้านายของรถ รถยนต์ของคุณกลับแปรเปลี่ยนกลายเป็น ‘เจ้านาย’ ที่อาจไม่ฟังคำสั่งอะไรของคุณเลย เรียกว่าน่ากลัวยิ่งกว่าม้าพยศเลยทีเดียว

อาการ ‘เบรกแตก’ เกิดจากอาจมีการรั่วซึมขึ้นได้จากการรั่วของลูกยางตัวใดตัวหนึ่งหรือท่อน้ำมันเบรกรั่ว และอาจมาจากการขาดการดูแลรักษาระบบห้ามล้ออย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผ้าเบรก ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร สิ่งที่จะทำให้คุณรอดจากปัญหานี้ได้ ไม่ใช่การคิดถึงสาเหตุของปัญหาแต่เพียงอย่างเดียว แต่ควรทำตามวิธีดังต่อไปนี้ด้วย

 

ตั้งสติให้มั่น แล้วใช้แตรให้เกิดประโยชน์
เมื่อรู้ตัวว่าเหยียบเบรกแล้วรถไม่หยุดได้ดังใจ สิ่งแรกที่ควรทำไม่ใช่ดึงเบรกมือ แต่ควรดึงสติหรือตั้งสติอยู่กับตัวแล้วจับพวงมาลัยให้มั่น ไม่ป่ายส่ายป่ายขวา จากนั้นพาตัวรถไปอยู่เลนซ้ายถ้ามีที่ว่างเพียงพอ ระวังอย่าไปตัดหน้ารถคันอื่นเข้านะคะ และที่สำคัญหมั่นบีบแตรเพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้กับผู้ร่วมถนนคันอื่นๆ วิธีการนี้จะช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ค่ะ


ถอนคันเร่ง พร้อมผ่อนเกียร์ต่ำ

รถยนต์ทำมาจากวัสดุที่มีน้ำหนัก แม้ระบบเบรกจะไม่ทำงาน ก็ยังมีความหน่วงอยู่ค่ะ ไม่มีทางที่จะลอยฉิวเหมือนปุยนุ่นแบบหนังฮอลลีวูดแน่นอน ดังนั้น เหยียบคลัทช์ ลดตำแหน่งเกียร์ สำหรับรถเกียร์ธรรมดา ส่วนในเกียร์อัตโนมัติจากเกียร์ที่ใช้อยู่คือเกียร์ D ให้ปรับจากเกียร์ D ไป S หากรถปรับระดับความเร็วแล้วได้ประมาณ 40-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ให้ปรับจาก S ไปที่เกียร์ L พูดง่ายๆ ว่าให้ปรับเกียร์ต่ำลงเป็นระยะๆ ตามความเร็วรถนั่น จำไว้ว่าห้ามเปลี่ยนมาเป็น L ทันทีโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจจะพบว่าเครื่องยนต์พังก็เป็นไปได้ และการปรับเกียร์ลงต่ำสุดในขณะที่รถกำลังวิ่งเร็วมากๆ ทำให้รถกระชากเสียหลักได้เช่นกัน

เบรกทั้งมือและเท้า

หลายคนมักดึงเบรกมือทันทีเมื่อรู้ว่าเบรกแตก ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดมากๆ เพราะการดึงเบรกมือในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูง อาจทำให้รถเสียหลักพุ่งชนกับคันอื่นได้ ดังนั้น ควรค่อยๆ ดึงเบรกมือไปพร้อมๆ กับที่ย้ำเบรกเท้า หลายคนอาจคิดว่าเบรกเท้าคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว แต่ระบบเบรกมักแบ่งการทำงานออกเป็น 2 วงจร อาจเป็นแบบล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง หรือเป็นแบบไขว้ล้อหน้าซ้าย-ล้อหลังขวา และล้อหน้าขวา-ล้อหลังซ้าย ดังนั้น เมื่อเบรกแตกหรือน้ำมันเบรกเกิดการรั่ว ส่วนใหญ่มักหลงเหลือประสิทธิภาพการทำงานอยู่บ้าง การเหยียบซ้ำแรงๆ และถี่ๆ เพื่อใช้แรงดันในวงจรที่เหลือยู่ อาจช่วยสร้างแรงเสียดทานให้ผ้าเบรกได้ค่ะ

ไม่ว่าเหตุการณ์ ‘เบรกแตก’ จะมีโอกาสเกิดขึ้นกับคุณหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่คุณควรทำเพื่อป้องกันคือเช็คระบบเบรกสม่ำเสมอ โดยสิ่งที่ควรเช็คได้แก่
น้ำมันเบรก เพราะอาจมีการแตกชำรุดของอุปกรณ์บางส่วน จนทำให้น้ำมันเบรกรั่วซึมออกมาและไม่สามารถส่งถ่ายแรงดันไปที่กระบอกสูบเบรกได้
ผ้าเบรก หากปล่อยให้ผ้าเบรกหมด ตัวผ้าเบรกจะบางจนหลุดจากฝักก้าม และทำให้ลูกสูบหลุดได้
สายเบรกอ่อน เป็นกรณีที่พบบ่อยที่สุด อาจเกิดจากการเบรกแรงๆ บ่อยๆ จนทำให้สายเบรกอ่อนแตกได้
อุปกรณ์อื่น เช่น ฝักเบรก คาริปเปอร์ เป็นต้น


เครดิต
www.autospinn.com