เคล็ดลับการใช้งาน “ปุ่ม Push Start” อย่างถูกวิธี

        วันนี้ช่างเค จะมาบอกกล่าว เล่าเรื่องเกี่ยวกับปุ่ม Push Start พร้อมแนะเคล็ดลับการใช้งานอย่างถูกวิธีให้ครับ… ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับมันก่อนดีกว่าครับ ปุ่ม Push Start คืออะไร? มันก็คือปุ่มกดที่ทำหน้าที่เหมือนๆ กับกุญแจรถทั่วๆ ไป ใช้เปิดระบบภายในรถยนต์ ใช้เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ เพียงแต่เราไม่ต้องหยิบกุญแจขึ้นมาแล้วคลำหาช่องเสียบกุญแจเพื่อบิดสตาร์ทเท่านั้นเอง

ระบบของ ปุ่ม Push Start ทำงานยังไง?

        ปุ่ม Push Start จะทำงานควบคู่กับกุญแจ Smart Key เป็นการสื่อสารกันระหว่างตัวรถกับ Smart Key ถ้าไม่มี Smart Key ก็ไม่สามารถปลดล็อครถ หรือสตาร์ทเครื่องยนต์ได้

การทำงานของระบบ Push Start

        เมื่อผู้ใช้รถถือกุญแจ Smart Key เข้าไปในรถ ระบบจะมีการสื่อสารกันระหว่างรถยนต์กับตัวกุญแจ โดยการสื่อสารระบบจะยอมให้ทำงานได้ก็ต้องเป็นกุญแจที่มีการลงทะเบียนไว้ด้วยกันเท่านั้น พูดง่ายๆ คือมันต้องเคยรู้จักกัน เคยทำสัญญากันไว้แล้ว ระบบถึงจะพร้อมทำงาน และหลังจากที่ระบบพร้อมทำงาน เมื่อผู้ใช้รถกดปุ่ม Push Start 1 ครั้ง เทียบเท่ากับการบิดกุญแจไปที่ ACC สามารถเปิดวิทยุ ฟังเพลงได้ โดยเครื่องยนต์ยังจะยังไม่มีการสตาร์ทเกิดขึ้น

        ถ้าหากผู้ใช้รถกดที่ปุ่ม Push Start อีก 1 ครั้ง (เป็นการกดครั้งที่ 2 จากรอบแรก) เทียบเท่ากับการบิดกุญแจไปที่ ON สามารถใช้งานระบบไฟฟ้าของรถได้ เช่น  ใช้งานกระจกไฟฟ้าที่ประตู และตรวจเช็คไฟสถานะต่างๆ ได้ที่แผงหน้าปัด

และเมื่อผู้ใช้กดปุ่ม Push Start อีกครั้ง (เป็นการกดครั้งที่ 3) โดยมีการเหยียบแป้นเบรคด้วย ก็เทียบเท่ากับการบิดกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์นั่นเอง

วิธีการใช้งานปุ่ม Push Start

        ในการใช้งานจริง ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ก็จะพกกุญแจ Smart Key ไว้ในกระเป๋ากางเกง พอขึ้นรถ ระบบก็จะทำการสื่อสารให้อัตโนมัติ เมื่อผู้ใช้เหยียบแป้นเบรค แล้วกดปุ่ม Push Start เครื่องยนต์ก็จะสตาร์ทให้เลย ซึ่งก็สะดวกดีและก็ไม่ได้มีผลเสียอะไรครับ

        แต่………. ถ้าลองนึกถึงวิธีการใช้งานของรถยนต์ทั่วไปที่ใช้กุญแจธรรมดา โดยปกติแล้วก่อนที่เราจะสตาร์ทเครื่องยนต์ การบิดกุญแจไปในตำแหน่งที่ 2 คือ ตำแหน่ง ON ไฟสถานะต่างๆ ที่แผงหน้าปัดก็จะติดขึ้นเพื่อแสดงสถานะให้ผู้ใช้รู้ว่าขณะนี้ระบบใดพร้อมใช้งานบ้าง มีระบบอะไรไม่พร้อมบ้าง ยกตัวอย่างเช่น ระบบ ABS ปกติไฟสถานะของระบบ ABS จะติดขึ้นหลังจากที่เราบิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง ON และดับลงภายใน 6 วินาที แสดงว่าระบบพร้อมใช้งานแล้ว แต่ถ้าผู้ขับขี่ขึ้นรถมาบิดกุญแจสตาร์ททันที โดยไม่สังเกตสถานะต่างๆ ก็อาจจะไม่รู้ถึงความผิดปกติของรถที่ใช้งานอยู่ได้

        ฉะนั้น ในการใช้งานปุ่ม Push Start ที่ผู้ผลิตรถเองได้ออกแบบมาไว้ให้ใช้แบบเหมือนจะกั๊กๆ แต่เค้าก็มีจุดประสงค์อย่างที่กล่าวมา ผู้ใช้ที่อยากสบายจะใช้ปุ่ม Push Start แบบสบายๆ ก็ไม่ได้ผิดอะไร ส่วนผู้ที่ชอบเช็คสถานะของระบบต่างๆ ของรถก่อนสตาร์ทก็ไม่ผิดเช่นกัน เอาเป็นว่าแล้วแต่สถานการณ์และความถนัดของแต่ละคนนะครับ



เผลอกดปุ่ม Push Start ขณะรถกำลังวิ่ง

        เป็นเรื่องที่หลายๆ คนสงสัยและเกิดความกลัวขึ้นมาว่า ถ้าขับรถอยู่แล้วบังเอิญไปกดโดนปุ่ม Push Start เข้าให้ จะเกิดอะไรขึ้น… ไม่ต้องสงสัยและกังวลไปครับ เพราะระบบ Pust Start นี้หากใครไปกดในขณะขับขี่ ยังไงรถก็ไม่ดับ ซึ่งก็เป็นระบบป้องกันที่มีมาให้ และแตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้กุญแจทั่วไปที่บิดกุญแจขณะที่รถวิ่งอยู่ยังไงก็ดับครับ

แบตเตอรี่ของ Smart Key

        ในตัวของ Smart Key จะมีแบตเตอรี่อยู่ จะ 1 หรือ 2 ก้อนก็แล้วแต่รุ่นของรถยนต์นั้นๆ ซึ่งแบตเตอรี่นี้จะใช้งานอยู่ 2 ส่วน คือ ใช้ Lock/Unlock ประตูทุกบานโดยการกดที่รีโมทกุญแจรถ อีกส่วนของการใช้งานคือ ใช้เป็นแหล่งพลังงานในการสื่อสารกับรถยนต์เมื่อเข้าไปภายในรถและจะใช้งานปุ่ม Push Start นั่นเอง


แล้วถ้าแบตเตอรี่ Smart Key หมดประจุล่ะ?

        หากใช้งานไปแล้วแบตเตอรี่ Smart Key เกิดหมดประจุ เสื่อมสภาพหรือถึงอายุไขของแบตเตอรี่ ก็ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะในตัวของกุญแจ Smart Key จะมีกุญแจดอกเล็กเสียบซ่อนอยู่ข้างๆ ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยสังเกตว่ามี แล้วพอเกิดอาการ Lock/Unlock ก็เริ่มวิตกว่าจะเปิดรถได้ยังไง ไอ้เจ้ากุญแจดอกเล็กนี้จะทำหน้าที่เพื่อให้ผู้ใช้รถไขประตูเข้าไปในรถได้ พอเข้ารถได้แล้วเรื่องสตาร์ทรถเพื่อใช้งาน ก็เพียงแค่นำตัวกุญแจ Smart Key เข้าไปทาบใกล้กับปุ่ม Push Start จากนั้นก็เหยียบแป้นเบรคค้างไว้ แล้วกดปุ่มเพื่อสตาร์ทได้เลย เมื่อเครื่องติด วิ่งได้ก็เข้าศูนย์บริการโตโยต้า เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ของกุญแจ Smart Key ได้เลยครับ

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

        เมื่อแบตเตอรี่ Smart Key หมดประจุ ควรซื้อหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ศูนย์บริการโตโยต้าเท่านั้น ไม่แนะนำให้ไปหาซื้อเปลี่ยนเองตามร้านทั่วไปครับ เพราะค่าการจ่ายกระแสหรือค่าการเก็บประจุจะไม่เท่ากัน พอเปลี่ยนมาก็ไม่สามารถใช้งานได้

เครดิต www.kmotors.co.th