ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ในสภาพอากาศที่มีหิมะ

ฟอร์ดเป็นบริษัทรถยนต์รายแรกที่สาธิตการทำงานของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในหิมะสู่สาธารณะ โดยได้ทำการทดสอบในสภาพอากาศฤดูหนาวที่รัฐมิชิแกน รวมถึงที่เอ็มซิตี้ สนามทดสอบรถเสมือนจริงขนาด 32 เอเคอร์ ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน

  1. การทำงานในสภาวะหิมะหรือฝนตก รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติฟอร์ด ฟิวชั่น ไฮบริด ต้องวิ่งสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบเพื่อสร้างแผนที่ดิจิทัลแบบสามมิติความละเอียดสูงเป็นอันดับแรก โดยใช้อุปกรณ์สแกน LiDAR จำนวน 4 ตัว ในการปล่อยเลเซอร์รวม 2.8 ล้านจุดต่อ 1 วินาที ผลลัพธ์ของแผนที่ที่ได้จะถูกนำมาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการระบุตำแหน่งรถยนต์ขณะอยู่ในโหมดขับเคลื่อนอัตโนมัติ แม้ว่าถนนจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ
  2. ขณะที่ทำการร่างแผนที่ดิจิทัลแบบสามมิติ รถยนต์ฟอร์ดขับเคลื่อนอัตโนมัติจะเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเส้นทาง สถานที่โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกทาง ตึกอาคาร ต้นไม้ และอื่นๆ โดยรถยนต์จะเก็บข้อมูลมากถึง 600 กิกะไบต์ต่อชั่วโมง เพื่อนำไปสร้างแผนที่ภูมิทัศน์สามมิติความละเอียดสูง ซึ่งเป็นขนาดข้อมูลเทียบเท่าการใช้งานข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน 10 ปี
  3. รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของฟอร์ดปล่อยเลเซอร์หลายจุดจากเซ็นเซอร์ LiDAR โดยเซ็นเซอร์บางจุดกระทบเข้ากับเกล็ดหิมะหรือหยดน้ำฝนและทำให้ประมวลผลผิดไปว่ามีวัตถุขวางทางอยู่ ฟอร์ดได้ทำงานร่วมกับทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนและได้สร้างอัลกอริทึ่มที่สามารถตรวจจับหิมะและน้ำฝน เพื่อช่วยกรองวัตถุเหล่านี้ให้พ้นจากทัศนวิสัยของรถยนต์เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้
  4. นอกจากเซ็นเซอร์ LiDAR แล้ว ฟอร์ดยังใช้กล้องและสัญญาณเรดาร์เพื่อตรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ โดยใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จากการผสานการทำงานของเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่เรียกว่า เซ็นเซอร์ ฟิวชั่น

ขั้นตอนนี้ทำให้รถสามารถรับรู้ต่อสถานการณ์ต่างๆ แบบ 360 องศา เมื่อมีเซ็นเซอร์หนึ่งไม่ทำงานเพราะน้ำมีแข็ง หิมะ คราบสกปรก หรือเศษชิ้นส่วนต่างๆ เกาะบนเลนส์ของเซ็นเซอร์ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติจะยังคงสามารถทำงานได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของฟอร์ดจะทำการตรวจสอบการทำงานของระบบ LiDAR กล้องและเรดาร์ทั้งหมด เพื่อระบุการเสื่อมประสิทธิภาพการทำงานของระบบเซ็นเซอร์ และช่วยให้เซ็นเซอร์ต่างๆ ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนตามขั้นตอน ซึ่งรถยนต์จะสามารถจัดการกับน้ำแข็งและคราบต่างๆ ได้ผ่านระบบตรวจวัดทำความสะอาดและกำจัดไอน้ำด้วยตัวเอง

เครดิต www.gmcarmagazine.com