ระบบ ECO ในรถยนต์ มีดียังไง

ไฟ ECO ที่ขึ้นอยู่ที่หน้าปัดรถยนต์ของเรา คืออะไร ทำหน้าที่อะไร ช่วยให้ประหยัดนํ้ามันได้จริงรึเปล่า มันหมายถึงอะไร?? และอีกคำถามมากมายที่หลายๆคนอาจจะไม่รู้คำตอบ วันนี้จะมาไขข้อข้องใจให้กับทุกๆคนกันครับ

ก่อนอื่นเราคงต้องมาทำความรู้จักกับเจ้าระบบ ECO นี้ก่อนเลยครับ ไฟ eco คืออะไร? …เอาง่ายๆไฟ eco ก็คือไฟที่โชว์ขึ้นบนหน้าปัดรถยนต์ เพื่อแจ้งให้ผู้ขับขี่รู้ว่าในการขับขี่ ณ ขณะนั้น รถมีการใช้พลังงานได้คุ้มค่าที่สุดและประหยัดที่สุดครับ

หลักการทำงานของไฟ eco

โดยปกติการขับขี่ที่ทำให้สิ้นเปลืองที่สุดคือ การออกตัว การใช้รอบเครื่องยนต์หรือการเร่งรอบเครื่องยนต์โดยการเหยียบคันเร่งแบบแรงๆ หรือทันทีทันใด ซึ่งในส่วนการทำงานของไฟ eco เมื่อเครื่องยนต์ทำงานและมีการขับขี่ ไฟแสดงสถานะ eco จะติดหรือไม่ติดนั้น ไม่มีผลกับการสิ้นเปลืองน้ำมัน แต่ถ้ามีไฟ eco โชว์ขึ้นบนหน้าปัดรถยนต์นั้น แสดงให้เห็นว่าเป็นช่วงเวลาของการขับที่ประหยัดน้ำมันที่สุด เช่น ตอนเหยียบคันเร่งน้อยๆ หรือค่อยๆ เหยียบ รวมไปถึงเมื่อการขับขี่ใช้ความเร็วคงที่และสม่ำเสมอ โดยที่ตัวเครื่องยนต์นั้นไม่ได้มีอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนใดๆ ติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อทำให้ประหยัดน้ำมันตามที่ใครหลายๆ คนเข้าใจ แต่สำหรับรถบางรุ่นจะมีสวิทช์ที่ใช้เปิดระบบ eco mode และ power mode ไว้ให้เลือกใช้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ เมื่อกดเลือกโหมดในการใช้งาน ECU ที่ควบคุมระบบเครื่องยนต์จะมีการสั่งการฉีดน้ำมันให้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับโหมดที่ผู้ขับขี่เลือกใช้ ถ้าผู้ขับขี่ไม่ได้กดเลือกโหมดใดๆ เครื่องยนต์ก็ทำงานตามปกติพื้นฐานเหมือนเครื่องยนต์ทั่วๆ ไป

โหมด eco

เมื่อผู้ขับขี่มีการกดเลือกโหมดที่เป็น eco เพื่อใช้งาน ECU ระบบเครื่องยนต์ก็จะสั่งการทำงานให้ลดพลังงานลงน้อยกว่าค่าพื้นฐาน เช่น การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะมีการฉีดน้อยลงเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ซึ่งในโหมดนี้ผู้ขับขี่จะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของอัตราเร่งในรถยนต์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อใช้โหมดนี้แล้วรถจะวิ่งไม่ออก แซงไม่ได้ หรือกดคันเร่งไม่ได้ ผู้ขับขี่ยังสามารถกดคันเร่งเพิ่มเติมได้เพื่อเรียกกำลังของเครื่องยนต์ออกมา โดยที่ระบบก็ยังคงอยู่ในโหมดที่เป็น eco ที่มีความประหยัดอยู่

โหมด power

ในโหมดนี้ชื่อก็บอกตรงๆ ตัวเลยว่าเป็นโหมดที่ต้องการพละกำลังมาก อัตราเร่งดีๆ การที่ผู้ขับขี่กดเลือกใช้โหมดนี้แล้วจะเรียกหาความประหยัดเหมือนกับโหมดปกติ หรือโหมด eco ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะโหมดนี้ ECU จะสั่งการเครื่องยนต์เหมือนกันแต่จะต่างกันที่โหมดนี้จะเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ เพิ่มการฉีดน้ำมัน เพื่อให้อัตราเร่งทำได้แบบทันท่วงที และเมื่อฉีดมากจ่ายมากก็จะสิ้นเปลืองกว่าปกติแน่ๆ แต่สิ่งที่ได้กับการเลือกใช้โหมดนี้คือ พละกำลังและอัตราเร่งที่ตอบสนองให้การขับขี่แบบสนุกและทันใจเลยทีเดียว

ทั้ง 2 โหมดที่กล่าวมาข้างต้นต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งล้วนขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานของผู้ขับขี่ เพราะในความเป็นจริงรถยนต์จะกินน้ำมันมากกินน้ำมันน้อยนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์ หรือออฟชั่นที่ใส่เข้าไปในรถยนต์ แต่หลักๆ อยู่ที่การควบคุมการขับขี่ของคนขับมากที่สุด ออกเร่ง ออกแรง มันก็กินน้ำมันเป็นเรื่องปกติของรถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ แต่ถ้าขับแบบค่อยๆ เติมคันเร่ง ขับในรอบเครื่องยนต์ที่ไม่สูงจนเกินไป รักษาความเร็วให้คงที่สม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ประหยัดได้

เครดิต www.kmotors.co.th