กรองเดิมกับกรองเปลือย ต่างกันยังไง?

สมรรถนะของรถยนต์ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่ง ที่หลายๆ คนให้ความสนใจกันเป็นพิเศษ และบางคนถึงขั้นทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้สมรรถนะที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ไล่ไปตั้งแต่การปรับแต่ง เปลี่ยนนู่นนี่นั่น เช่น เปลี่ยนท่อ ใส่เทอร์โบว์ ใส่กล่องแต่ง ลดน้ำหนักบอดี้ ฯลฯ และสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ กรองอากาศ

กรองเดิมส่วนใหญ่ที่ติดออกมาจากผู้ผลิตรถยนต์ ส่วนมากจะเป็นกระดาษหลายๆ แผ่นซ้อนกันที่อยู่ในกล่องด้านในห้องเครื่องยนต์ ซึ่งหน้าตาอาจแตกต่างกันไปแล้วแต่ยี่ห้อ ส่วนกรองเปลือยผลิต ขึ้นได้จากหลากหลายวัสดุ เช่น ผ้า สแตนเลส ฯลฯ นอกจากนี้มันยังโชว์ตัวอยู่ในห้องเครื่องเลย ไม่มีกล่องอะไรมาปิดกั้นเอาไว้ ส่วนรูปร่างหน้าตาก็มีให้เลือกหลายแบบ รวมไปถึงขนาด และสีสันด้วย

สำหรับความแตกต่างของกรองเดิมกับกรองเปลือย เราขอแยกออกมาเป็นข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้

    ข้อดี กรองเดิม
  1. ไม่ต้องปรับแต่งภายในห้องเครื่องยนต์ เพียงแค่ซื้อไส้กรองตัวใหม่มาก็สามารถเปลี่ยนได้เลย
  2. ราคามาตรฐาน ไม่แพง สามารถเปลี่ยนได้เลยที่ศูนย์บริการ อู่นอก หรือเปลี่ยนเองก็ได้
  3. มีกำหนดระยะเวลาในการเปลี่ยนชัดเจน (เปลี่ยนเมื่อเช็กระยะ ฯลฯ)
    ข้อเสีย กรองเดิม

  1. ระยะเวลาในการใช้งานสั้น ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ เมื่อถึงเวลาเช็กระยะ หรือหากสกปรกมาก
  2. ครีบของกรองอาจล้มได้ ทำให้กรองสิ่งสกปรกได้ไม่ดีเท่าที่ควร
  3. ดูดอากาศได้ไม่ดีเท่ากรองเปลือย
    ข้อดี กรองเปลือย

  1. มีหลากหลายราคา ขนาด และรูปทรงให้เลือกใช้
  2. เพิ่มความเท่ ความสวยงามให้กับห้องเครื่อง
  3. สามารถดูดอากาศได้ดีกว่ากรองเดิม
    ข้อเสีย กรองเปลือย

  1. เสียเงินเพิ่มขึ้น และต้องยอมเสียพื้นที่ภายในห้องเครื่อง เพื่อตีท่อเส้นใหม่ขึ้นมาใส่กรองเปลือย
  2. หากติดตั้งไม่ดี หรือไม่ถูกจุด อาจทำให้แรงตกในรอบต้น (พยายามหาจุดที่มีอากาศร้อนน้อยที่สุด หรือทำที่กั้นห้องให้กรองเปลือย เพราะในห้องเครื่องมีแต่อากาศร้อน)
  3. หากกรองเปลือยชำรุด ฉีกขาด หรือเสียหาย สิ่งสกปรกต่างๆ จะถูกดูดเข้าห้องเครื่องโดยตรงทันที

แต่หลักๆ แล้วทั้งกรองเดิม และกรองเปลือย มีหน้าที่ในการกรองอากาศที่จะเข้ามาในเครื่องยนต์ให้สะอาด และบริสุทธิ์ที่สุด เพื่อเครื่องยนต์จะได้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้มันยังช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นผง ฝุ่นละอองต่างๆ เข้าไปทำความเสียหายภายในอีกด้วย

สุดท้ายนี้ หากคุณใช้รถปกติ ไม่ได้เน้นความเร็วแรงอะไรมากมายนัก ใช้เพียงแค่กรองเดิมก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าคุณอยากเพิ่มสมรรถนะให้รถของคุณขับสนุก ขับมันส์ยิ่งขึ้น เปลี่ยนมาใช้กรองเปลือยได้เลย (อย่าลืมเลือกจุดติดตั้งให้เหมาะสม) แต่ที่สำคัญ ไม่ว่าจะใส่กรองอากาศอะไร ควรหมั่นตรวจเช็ก และดูแลรักษาความสะอาดให้ดี เพื่อที่รถสุดรักจะได้อยู่คู่กับคุณไปนานๆ

เครดิต www.sanook.com