อะไรทำให้เกียร์ธรรมดาพัง

แม้ว่าเกียร์ธรรมดาจะขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและบำรุงรักษาง่าย แต่หากใช้เกียร์ธรรมดาอย่างผิดวิธี ก็อาจส่งผลต่ออายุการใช้งานระบบเกียร์และคลัทช์ได้เช่นกัน เราจึงขอแนะนำ 5 สิ่งที่ไม่ควรทำในรถเกียร์ธรรมดา จะมีอะไรบ้าง?

1.ไม่เหยียบคลัทช์ค้างไว้ขณะจอดติดไฟแดง

แม้ว่าผู้ที่ขับรถเกียร์ธรรมดาส่วนใหญ่จะใส่เกียร์ว่างขณะรถจอดติดไฟแดง เพราะไม่อยากเหยียบคลัทช์ให้เมื่อยขา แต่บางคนก็เลือกที่จะเข้าเกียร์พร้อมกับเหยียบคลัทช์ค้างเอาไว้ในบางโอกาส เนื่องจากต้องการความรวดเร็วในการออกตัว แต่การเหยียบคลัทช์ค้างไว้ จะทำให้ลูกปืนคลัชท์เสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น ทางที่ดีจึงควรใส่เกียร์ว่างทุกครั้งเมื่อรถหยุด

2.ใช้เกียร์สูงขณะที่ความเร็วต่ำ

ไม่ควรใช้เกียร์สูงในขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ (ยกตัวอย่างเช่น ใช้เกียร์ 5 ขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำเพียง 40 กม./ชม.) โดยเฉพาะการเหยียบคันเร่งจมมิด เพราะจะเป็นการฉุดกำลังเครื่องยนต์ เร่งไม่ขึ้น อีกทั้งยังเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุอีกด้วย ทางที่ดีควรใช้ตำแหน่งเกียร์ที่เหมาะสมในแต่ละย่านความเร็ว

3.ไม่ควรวางมือไว้บนคันเกียร์

หลายคนมักใช้คันเกียร์เป็นที่พักมือ (ทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้) ซึ่งในกรณีเกียร์ออโต้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่สำหรับเกียร์ธรรมดานั้น หากกดน้ำหนักมือมากจนเกินไป จะสร้างแรงกดไปยังก้ามปูเกียร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดการหลวมจนเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็นได้

4.ไม่เร่งเครื่องขณะจอดติดทางชัน

หากรถจอดติดทางชัน ไม่ควรใช้วิธีเร่งเครื่องเพื่อป้องกันรถไหล เพราะอาจทำให้คลัทช์ไหม้ได้ ทางที่ดีควรเหยียบเบรก ปลดเกียร์ว่าง แล้วจึงดึงเบรกมือค้างไว้ หากกลัวว่ารถจะไหลไปข้างหลังขณะออกตัว ให้ใช้วิธีดึงเบรกมือจนสุด เร่งเครื่องยนต์ตามปกติ จากนั้นจึงปลดเบรกมือลง จะช่วยให้รถไม่ไหลลงทางชัน แต่ทางที่ดีควรฝึกขับเกียร์ธรรมดาให้คุ้นชิน เพื่อจะได้กะระยะปล่อยคลัทช์ได้อย่างแม่นยำ

5.ไม่วางเท้าบนแป้นคลัทช์

เป็นข้อห้ามสุดคลาสสิกสำหรับรถเกียร์ธรรมดาเลยก็ว่าได้ เพราะการวางเท้าบนแป้นคลัทช์ด้วยน้ำหนักมากจนเกินไป จะทำใหุ้ชุดคลัทช์เกิดการเสียดสีจนทำให้คลัทช์หมดได้ บางกรณีอาจทำให้เกิดอาการคลัทช์ไหม้ได้อีกด้วย

เครดิต www.sanook.com