SUV กับ CUV แตกต่างกันอย่างไร?

ปัจจุบันรถยนต์อเนกประสงค์กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ค่ายรถยนต์ต่างก็แข่งขันกันผลิต และออกแบบมาเพื่อให้ตอบสนองได้ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งาน ทำให้มีรุ่นรถหลากหลายเซกเมนต์ หลายขนาดให้เลือก แถมยังมีชื่อเรียกต่างๆ กันไป หลายๆ คนอาจจะสับสนว่าตกลงรถที่เราใช้อยู่นั้นจัดอยู่ในประเภทไหน อย่างชื่อ CUV ที่พักหลังๆ เริ่มมีคนพูดถึงกัน แล้ว CUV กับ SUV ต่างกันอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้ครับ

SUV – ยกสูง – ตัวใหญ่ – มีหรือไม่มีแชสซีส์

รถอเนกประสงค์ หรือ SUV (Sport Utility Vehicles) ที่เรียกกันจนติดปากมานาน รถประเภทนี้คือ รถยนต์ยกสูงแบบ 5 ประตู ท้ายตัด มีขนาดกลาง-ขนาดใหญ่ แต่เดิม รถ SUV ใช้โครงสร้างตัวจากพื้นฐานรถปิคอัพมาก่อน และต่อมาก็ได้พัฒนาให้ตัวถังรถไม่มีแชสซีส์ มีความแข็งแรงมากขึ้นจนเทียบเคียงกันได้ พร้อมกับมีขนาดใหญ่โตใกล้เคียงกันจึงนับว่าเป็น SUV รวมไปด้วย โดยที่ต้องมีคุณสมบัติในเรื่องความแข็งแรงทั้งตัวรถ ระบบช่วงล่าง สามารถลุยเส้นทางแบบ Off-Road เต็มรูปแบบได้ พร้อมกับติดตั้งระบบขับเคลื่อนที่เลือกได้ทั้งขับเคลื่อน 2 หรือ 4 ล้อ เรียกว่าลุยป่าเขาหรือถนนที่ธุรกันดารได้แบบไม่ต้องกลัวพัง

ส่วนในประเทศไทยอย่างที่เราทราบกับว่ารถอเนกประสงค์ที่นำแชสซีส์ของปิคอัพมาดัดแปลงตามเงื่อนไขรัฐบาลในยุคนั้น เพื่อลดโครงสร้างภาษี และเรียกเฉพาะในประเทศไทยที่อยู่ในโครงการรถกระบะดัดแปลงแบบนี้ว่า “PPV” ซึ่งอันที่จริงมันก็คือ “SUV” แบบหนึ่งเช่นกันนั่นเอง


ช่วงล่วงแข็งแรงบึกบึนของ SUV มักมีพื้นฐานจากรถปิคอัพ

CUV – ขนาดกลาง – สูงน้อยกว่า – พื้นฐานรถเก๋ง

รถยนต์อเนกประสงค์ที่มีรูปแบบตัวถัง 5 ประตูท้ายตัด มีทั้งแบบ 5 หรือ 7 ที่นั่ง แต่มีขนาดเล็กลงกว่า SUV บ้างก็เรียกว่า Crossover แต่ในสมัยนี้มีคำศัพท์ใหม่เรียกว่า CUV (Crossover Utility vehicle) ซึ่งใช้เรียกรถประเภทนี้แบบเหมารวมการใช้งานทั้งทางเรียบทางฝุ่น และอเนกประสงค์ไปเลย


CUV ใช้พื้นฐานจากรถยนต์ที่ไม่มีแชสซีส์หรือตัวถังแบบโมโนคอค และออกแบบให้มีความสูงที่แตกต่างจากรถเก๋งทั่วไปในระดับเดียวกันไม่มากนัก แต่ก็นับว่าสูงพอที่จะลุยข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้ เรียกว่าน้องๆ SUV เลย ซึ่งรถยนต์ในเซกเมนต์นี้ (CUV) ได้รับความนิยมมากขึ้นหลายเท่าตัว เพราะความเล็กกะทัดรัด คล่องตัวกว่ารถขนาดใหญ่อย่างประเภท SUV ที่เทอะทะสูงจนโคลงเคลง เจ้า CUV มักจะให้การควบคุมที่ดีกว่า แต่ก็มีข้อจำกัดในการลุยทางแบบ Off-Road ที่เป็นป่าเขาหรือร่องลึกๆ ไม่ได้เท่ารถแบบ SUV นั่นเอง ประกอบกับกำลังของเครื่องยนต์มักน้อยกว่า จึงเน้นการใช้งานแบบทั่วไปทั้งในเมืองและขับขี่ทางไกล

ช่วงรถแบบ CUV หรือ Crossover มักมีพื้นฐานจากรถเก๋ง

SUV หรือ CUV?

รถทั้ง 2 แบบนี้ มีลักษณะการใช้งานที่คล้ายกัน เข่น มีความอเนกประสงค์ ยกสูง ฟังก์ชั่นเบาะภายในปรับเปลี่ยนได้ และบรรทุกผู้โดยสารหรือว่าสัมภาระได้มาก ส่วนข้อแตกต่างนั้นอาจเน้นทางด้านจุดประสงค์ของผู้ซื้อมาใช้งานเป็นสำคัญมากกว่าประเภทของรถ

SUV – ผู้ที่ต้องการรถขนาดใหญ่จุคน/ของได้เยอะ เดินทางไกลบ่อยครั้ง ชอบลุยเส้นทางโหดๆ ลุยน้ำลึก, ลำธาร, หรือปีนไต่ทางลาดชันสุดๆ และต้องการกำลังมากๆ จากเครื่องยนต์ดีเซลในการลากจูงหรือข้ามผ่านอุปกสรรค

รถประเภทนี้น่าจะตอบสนองความต้องการผู้ใช้งานลักษณะนี้ได้มากกว่า แต่ก็มีจุดด้อยเช่น มีความแข็งกระด้าง อาจนั่งไม่สบายจากระบบช่วงล่างที่แข็ง การเก็บเสียงในห้องโดยสาร หรือแม้แต่ความคล่องตัวในเมืองน้อยลง เป็นต้น

CUV – ผู้ที่ชอบไลฟ์สไตล์ในเมืองเป็นหลัก หรือแทบไม่ออกต่างจังหวัดเลย แต่ชอบความสะดวกสบายในการเดินทาง ด้วยความสูงของรถที่ดีกว่ารถเก๋งทั่วไป ไม่ต้องระมัดระวังมาก ให้ความนุ่มนวล รูปทรงทันสมัย คล่องตัว และให้การควบคุมที่ดีกว่า

โดยรถประเภทนี้มีความสูงไม่มากนัก ผู้ที่จะใช้ลุยป่าเขาอาจต้องศึกษาเส้นทางให้ดีก่อน เพราะว่าความมสูงที่ไม่มากบวกกับกำลังของเครื่องยนต์ที่ส่วนใหญ่มักเป็นเครื่องยนต์เบนซินที่เน้นการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก อาจไต่ระดับความชันได้ไม่มากเท่ากับรถ SUV

สรุปว่าทั้งรถ SUV และ CUV ต่างก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งาน ขึ้นกับว่าผู้ซื้อต้องการนำไปใช้ลักษณะใด มีงบประมาณและมีความสามารถในการดูแลบำรุงรักษามากน้อยเพียงใด ซึ่งในบางกรณีรถทั้ง 2 ประเภทก็อาจจะใช้งานทดแทนกันได้บ้าง ที่นี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ, งบประมาณ และการใช้งานของแต่ละคนแล้วล่ะครับ

เครดิต www.checkraka.com