ชาวยุโรปเริ่มหันหลังให้กับเครื่องยนต์ดีเซล ยอดขายลดต่อเนื่อง

เผยผู้ใช้รถยนต์ในยุโรปเริ่มหันไปใช้ระบบขับเคลื่อนอื่นที่ไม่ใช่ดีเซลมากขึ้น อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากวิกฤตการโกงค่ามลพิษของโฟล์คสวาเกน กรุ๊ป

ยอดขายรถดีเซลในประเทศอังกฤษลดลง 17% ขณะที่ในเยอรมนีลดลง 7% ส่วนในประเทศฝรั่งเศสหนักกว่าเพื่อน โดยส่วนแบ่งตลาดของรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเหลือไม่ถึง 50% หลังจากเคยเป็นผู้นำตลาดมานานเกือบ 2 ทศวรรษ

ปีเตอร์ ม็อค กรรมการผู้จัดการสภาการเดินทางขนส่งด้วยพลังงานของสหภาพยุโรปกล่าวว่า “ผมมองว่ารถยนต์ขนาดใหญ่หรือรถที่ต้องใช้งานบรรทุกหนักจะยังใช้เครื่องยนต์ดีเซลต่อไป แต่สำหรับรถขนาดเล็กที่ใช้ดีเซลจะเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ”

ที่ผ่านมา ความต้องการใช้เครื่องยนต์ดีเซลในยุโรปเกิดจากปัจจัยสำคัญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันดีเซลที่ถูกกว่า และการอุดหนุนจากรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการปรับลดมลพิษ แต่วิกฤตการโกงมลพิษของโฟล์คสวาเกนทำให้ผู้บริโภคเริ่มหันหลังให้ขุมพลังประเภทนี้ กระทั่งกลุ่มอียูได้เสนอปรับลดการใช้งานทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ไปจนถึงการห้ามใช้โดยเด็ดขาดภายในปี 2030

แนวโน้มที่เกิดขึ้นตามมาก็คือความนิยมในรถพลังงานทางเลือกทั้งระบบไฟฟ้าและไฮบริด จึงคาดว่าหลังจากปี 2020 ความนิยมในรถดีเซลจะลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องในยุโรป และอีกหลายภูมิภาคทั่วโลก

เครดิต www.autospinn.com