รวมอาการ รถเสีย ที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำ

การใช้งานรถยนต์ทุกวัน ใช้งานบ่อยๆ ก็ย่อมจะก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ซึ่งบางอย่างอาจทำให้ รถเสีย และยิ่งอาการที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เกิดขึ้นเป็นประจำ มันก็ชวนให้หงุดหงิดไม่ใช่น้อย

ซึ่งอาการที่ว่านี้ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หลายปัจจัย เป็นไปได้อย่าปล่อยไว้นาน ให้รีบนำรถไปตรวจเช็กให้ไว ก่อนที่มันจะลามไปยังส่วนอื่นๆ

สำหรับอาการรถเสียที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำ มีอยู่ทั้งหมด ดังนี้

  1. เครื่องยนต์สตาร์ทติดยาก สาเหตุของอาการนี้อาจเกิดได้จากแบตเตอรี่ ไดสตาร์ท หรือระบบจ่ายเชื้อเพลิงมีปัญหา หรือเสื่อมสภาพ
  2. เครื่องยนต์สั่นแรง/ดับ ให้ทดสอบดูก่อนด้วยการเร่งเครื่องแรงๆ เนื่องจากเครื่องยนต์อาจเดินรอบไม่ถูก แต่ถ้าลองแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ก็ให้นำรถเข้าอู่ หรือศูนย์บริการ เพราะมันมีหลายสาเหตุเหลือเกิน
  3. มีน้ำมัน หรือน้ำหยดบนพื้น สังเกตดูที่พื้นให้ดีว่ารอยที่หยด เป็นน้ำมัน หรือน้ำ เพราะหากเป็นรอยเหนียวๆ ก็อาจเป็นพวกน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเพาเวอร์ ฯลฯ ซึ่งถ้าเป็นตามนี้ให้รีบนำรถเข้าซ่อมโดยเร็ว แต่ถ้าเป็นรอยหยดน้ำ ให้เช็กหม้อน้ำก่อนเป็นอันดับแรก ดูให้แน่ใจว่ามันลดลง หรือพร่องไปมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้ามันปกติ ก็อาจเป็นได้ว่ารอยที่หยดอาจเป็นน้ำจากระบบแอร์
  4. เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง เร่งไม่ขึ้น อาการเหล่านี้อาจเป็นเพราะ ไส้กรองอากาศ กรองน้ำมันเชื้อเพลิงตัน หรืออาจถึงระยะที่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว และหากทำทั้งหมดที่ว่ามานี้แล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ก็เป็นไปได้ว่าที่เครื่องยนต์ของคุณจะหลวมแล้ว ทางที่ดีให้นำรถเข้าอู่เพื่อฟิตเครื่องใหม่ไปเลยดีกว่า
  5. ไฟสัญลักษณ์ขึ้นโชว์ที่หน้าปัด ปัญหานี้ค่อนข้างกว้างแต่หลักๆ แล้วจะมีอยู่ 3 ข้อ ดังนี้
    1. ไฟเตือนรูปเครื่องยนต์ ซึ่งมันบ่งบอกถึงปัญหาของเครื่องยนต์หลายๆ อย่าง แนะนำให้นำรถเข้าไปตรวจเช็กกับช่างดีกว่า เพื่อจะได้หาสาเหตุ และแก้ไขได้เร็ว
    2. ไฟเตือนความร้อนขึ้นสูง ปัญหาหลักข้อนี้จะเกี่ยวกับระบบระบายความร้อน เช่น หม้อน้ำรั่ว ตัน พัดลมหม้อน้ำเสีย ท่อยางกรอบ แตก ฯลฯ
    3. ไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ เป็นไปได้ว่า แบตเตอรี่อาจหมด เสื่อม ชำรุด รวมไปถึงไดสตาร์ท และไดชาร์จ ฯลฯ
  6. ช่วงล่างแข็งผิดปกติ เวลาขับรถตกหลุม หรือขับผ่านลูกระนาดแล้วรู้สึกไม่นิ่มนวลเหมือนตอนแรกๆ แถมบางทีก็มีเสียงดัง ให้ตรวจสอบโช๊กอัพก่อน ก้มไปดู และสัมผัสที่ตัวโช๊กว่ามีน้ำมันไหลออกมาเหนียวๆ เปียกๆ หรือไม่ เพราะโช๊กอาจรั่ว นอกจากนี้ดูลมยางให้ดี ว่าอ่อน หรือแข็งไปรึเปล่า
  7. มีเสียงดังผิดปกติ ตั้งใจฟังให้ดีว่าเสียงที่ได้ยินมาจากส่วนไหน เช่น หากเบรกแล้วได้ยินเสียง อาจเป็นเพราะผ้าเบรกหมด หรือถ้าได้ยินที่ห้องเครื่อง สายพานอาจเสื่อมสภาพแล้วก็เป็นได้ หรือถ้าเป็นที่จุดอื่นๆ จำให้ดีว่าดังจากไหน จากนั้นนำรถเข้าไปให้ช่างดู แล้วบอกด้วยว่าได้ยินตรงไหน เพื่อที่ช่างจะได้แก้ไขได้อย่างถูกจุด
  8. มีกลิ่นเหม็นไหม้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แถมยังอันตรายมากๆ หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ให้หยุดขับทันที เช่น สายพานไหม้ ผ้าเบรกไหม้ ลูกสูบไหม้ ท่อไอเสียแตก และระบบไฟฟ้ามีปัญหา ให้รีบเรียกรถยกไปเข้าอู่ เข้าศูนย์ฯ โดยด่วน
  9. ท่อไอเสียมีควันขาว อาจจะเป็นเพราะใส่น้ำมันเครื่องมาก หรือน้อยเกินไป รวมถึงน้ำมันเครื่องอาจรั่วไหลออกมาตามรอยรั่วต่างๆ ของเครื่อง นอกจากนี้พวกซีลต่างๆ หรือฝาเครื่องอาจชำรุดเสียหาย จึงทำให้น้ำมันเครื่องเข้าไปที่ห้องเผาไหม้ได้ ทางที่ดีเข้าอู่ เข้าศูนย์ฯ ให้ช่างตรวจสอบให้จะดีกว่า

ทั้งหมดนี้คืออาการรถเสียที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำ แม้บางครั้งจะดูแลดีแค่ไหน มันก็อาจเกิดขึ้นได้ตามกาลเวลา และหากเกิดเหตุการณ์ข้อใดข้อหนึ่งขึ้นจริงๆ อย่าได้นิ่งนอนใจ ให้รีบนำรถเข้าไปซ่อมแซมทันที ไม่เช่นนั้นมันอาจลามไปยังส่วนอื่นๆ ได้

เครดิต www.sanook.com