ทำไมถึงห้ามหมุนพวงมาลัย จนสุด แล้วถ้าหมุนจนสุดจะเกิดอะไรขึ้น??

หลายครั้งที่บางคนมักจะหมุน พวงมาลัย จนสุดแล้วค้างทิ้งไว้นานๆ ไม่ว่าจะหมุน พวงมาลัย ไปทิศทางไหนก็ตาม ซึ่งรู้หรือไม่ว่า…การที่หมุน พวงมาลัย จนสุดแล้วค้างทิ้งไว้นานๆ นั้นมีแต่เกิดความเสียหายไม่มีผลดีอะไรเลย ไปดูว่ากันผลเสียนั้นคืออะไร

การที่หมุน พวงมาลัย จนสุดแล้วค้างทิ้งไว้นานๆ จะทำให้ น้ำมันเพาเวอร์ มีความร้อนสูง และโอกาสที่จะทำให้ระบบของ พวงมาลัย เกิดความเสียหายได้ ซึ่งในที่นี้เราหมายถึง ระบบของ พวงมาลัยเพาเวอร์ แบบที่ใช้ระบบไฮดรอลิคในการสร้างความดันน้ำมันไม่ใช่ พวงมาลัย ไฟฟ้าของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ

เมื่อเรายังไม่มีการหมุน พวงมาลัย หรือยังไม่มีการเลี้ยว ชุดโรตารี่วาล์วจะปล่อยให้น้ำมันไหลเข้าไปได้ทั้งสองข้างของลูกสูบกำลัง ทำให้ลูกสูบอยู่ในสภาวะที่สมดุล และน้ำมันก็จะถูกส่งกลับไปยังถังเก็บน้ำมัน แล้วถูกดูดกลับไปที่ปั๊มเพาเวอร์ จนกระทั้ง เราเริ่มหมุน พวงมาลัย ทอร์ชันบาร์สปริงเริ่มบิดตัว ทำให้โรตารี่วาล์วทำงาน แล้วทำให้น้ำมันไฮดรอลิคเข้าไปดันด้านใดด้านหนึ่งของลูกสูบกำลัง ทำให้เกิดการช่วยผ่อนแรงในการเลี้ยว เมื่อเราหยุดหมุน พวงมาลัย ในขณะที่รถยังเลี้ยวอยู่ แต่หมุน พวงมาลัย ไม่สุด เช่นทางโค้งยาวๆ ทอร์ชันบาร์จะไม่มีการบิดตัว โรตารี่วาล์วก็จะปล่อยให้น้ำมันไหลเข้าไปทั้งสองด้านเหมือนเดิม และจะไม่ส่งผลเสียต่อระบบไฮดรอลิค

ในกรณีที่หัก พวงมาลัย จนสุดแล้วค้างเอาไว้เพื่อที่จะรอกลับรถ ก็จะทำให้ระบบไฮดรอลิคเกิดความดันสูงมาก ซึ่งถ้าเราทำแบบนี้บ่อยๆ ผลที่ตามมา คือ น้ำมันไฮดรอลิคจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ท่อทางเดินน้ำมันต้านแรงดันสูงที่เป็นท่อยาง จะเกิดการรั่วตามข้อต่อ ปั้มเพาเวอร์ก็จะรับภาระหนัก และมีเสียงดังในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องหมุน พวงมาลัย ค้างไว้ เราก็ไม่ควรที่จะหมุน พวงมาลัย จนสุด แต่ถ้ารู้ว่าหมุนจนสุดแล้วให้ผ่อนแรงมือออกจากวง พวงมาลัย หรือคืน พวงมาลัย เล็กน้อย เพื่อจะได้ไม่มีปัญหา หรือได้รับความเสียหาย

เครดิต www.mthai.com