ไส้กรองน้ำมันเครื่อง “ของแท้” กับ “ของเทียม” มีผลต่อเครื่องยนต์ อย่างไร

สำหรับคนมีรถคงหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน เมื่อจะต้องถึงเวลาตรวจเช็กสภาพหรือครบระยะทางตามที่กำหนด โดยบางคนอาจจะเลือกเข้าศูนย์บริการ หรือเข้าอู่ที่มีให้บริการกันอยู่อย่างมากมาย ซึ่งนั่นก็แล้วแต่ความสะดวก และงบประมาณของแต่ละบุคคล

โดยในการตรวจเช็กระยะ สิ่งหนึ่งที่มักจะถูกเปลี่ยนไปพร้อมกับน้ำมันเครื่องนั่นก็คือ “ไส้กรองน้ำมันเครื่อง” นั่นเอง แต่บางคนอาจไม่ได้นึกถึง หรือไม่รู้ ไม่ใส่ใจ คิดแต่เพียงว่าใช้น้ำมันเครื่องเกรดดีๆ พรีเมี่ยมหน่อย ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

หน้าที่หลักของเจ้าไส้กรองน้ำมันเครื่อง มันทำอะไรบ้าง?

ไส้กรองน้ำมันเครื่อง” จะทำหน้าที่คอยดักฝุ่น กรองสิ่งสกปรกทั้งคราบเขม่า เศษผงเหล็กจากการสึกหรอ รวมไปถึงสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ ที่ไหลเวียนมากับน้ำมันเครื่อง ฯลฯ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้น้ำมันเครื่องที่ใช้ จะต้องมีความสะอาด ความหนืด มีคุณภาพ และประสิทธิภาพในการทำงานอย่างเต็มที่

ไส้กรองน้ำมันเครื่อง นอกจากจะมีของแท้จากศูนย์ฯ แล้ว ยังมีอีกช่องทางให้เราได้เลือกกันนั่นก็คือ ของเทียม ซึ่งก็อย่างที่รู้กัน ของแท้มักจะมีราคาที่สูงกว่าของเทียม บางคนไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ หรืออาจจะอยากประหยัดงบ เลือกใช้ของเทียมราคาถูก เพราะคิดว่าคุณภาพคงไม่ต่างกันกับของแท้ อีกทั้งมันก็คือ ไส้กรอง เหมือนๆ กัน ประสิทธิภาพน่าจะใกล้เคียงกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันมีผลต่อเครื่องยนต์ต่างกันอย่างมาก ถ้าของเทียมที่คุณใช้คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน

ไส้กรองน้ำมันเครื่องประกอบด้วยอะไรบ้าง และของแท้-เทียม มีความแตกต่างกันอย่างไร ใช้แบบไหนดีกว่ากัน?

  1. กระดาษกรอง
  2. นับได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการกรองน้ำมันเครื่อง เพราะของแท้จะมีคุณภาพของกระดาษกรองที่หนากว่า และจำนวนทบของกระดาษก็มีจำนวนมากกว่าของเทียม ทำให้การกรองน้ำมันเครื่องมีความสะอาดมากกว่า แถมอายุการใช้งานก็อยู่ได้นานกว่าของเทียมอีกด้วย

  3. แผ่นไดอะแฟรม
  4. เป็นแผ่นยางกลมๆ มีสปริงกดไว้ โดยหน้าที่ของมันจะทำการกักเก็บน้ำมันเครื่องไว้ในตอนที่ดับเครื่องยนต์ ซึ่งการกักเก็บน้ำมันเครื่องตรงนี้เอาไว้ก็เพื่อนำมาใช้ใหม่ หลังจากที่คุณจอดรถทิ้งไว้แล้วกลับมาสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้งในตอนเช้า หรือครั้งแรกของวันใหม่ ซึ่งน้ำมันตรงนี้จะไหลขึ้นไปหล่อลื่นยังจุดต่างๆ อย่างรวดเร็ว ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ในตอนที่สตาร์ทติดใหม่ๆ แต่ส่วนใหญ่ของเทียมมักจะเก็บได้น้อย หรืออาจเก็บไม่ได้เลยก็มี

  5. บายพาสวาล์ว (Bypass Valve) หรือ เซฟตี้ วาล์ว (Safety Valve)
  6. ไส้กรองน้ำมันเครื่องไม่ว่าแท้ หรือเทียม ต้องมีเจ้าตัวนี้อยู่ เพราะมันมีหน้าที่ระบายน้ำมันเครื่องให้เข้าไปสู่จุดหล่อลื่นต่างๆ ในเครื่องยนต์ โดยไม่ต้องผ่านไส้กรอง แต่มันจะทำงานก็ต่อเมื่อเกิดการอุดตันที่กระดาษกรอง ไม่เช่นนั้นเครื่องยนต์อาจพัง หรือเสียหายได้ หากไม่มีน้ำมันไปหล่อเลี้ยง และส่วนใหญ่ของเทียมมักจะมีปัญหามากกว่าของแท้ เช่น วาล์วแข็งทำให้น้ำมันเครื่องไม่พอไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ แต่ถ้าอ่อนเกินไป วาล์วจะเปิดเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้น้ำมันเครื่องไหลไปโดยที่ไม่ผ่านการกรอง และนี่จึงเป็นอีกเหตุผล ที่ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอ พังไวกว่าปกติ

    เพื่อให้การใช้งานเกิดประโยชน์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด กรองน้ำมันเครื่องควรจะทำการเปลี่ยนถ่ายทุกๆ 5,000 – 10,000 กม. (ขึ้นอยู่กับน้ำมันเครื่องที่คุณเลือกใช้) ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ จึงสมควรเปลี่ยนไส้กรองใหม่ตามไปด้วย และที่สำคัญ ควรจะใช้ไส้กรองน้ำมันเครื่องของแท้ดีกว่าการใช้ของเทียม เพราะถึงยังไงมันก็คุ้มค่าคุ้มราคามากกว่า (ระวังจะเข้าตำรา “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย”) สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ กรองได้ละเอียด แถมยังช่วยปกป้องได้มากกว่าอีกด้วย แต่ถ้าคุณยังอยากใช้ของเทียม เพราะอยากประหยัดงบก็ไม่เป็นไร แต่คงต้องระวังให้ดี เพราะมันอาจขาดเนื่องจากวัสดุที่ใช้ผลิตไม่มีคุณภาพ หรือมันอาจกรองสิ่งสกปรกได้ไม่เต็มที่

    เครดิต www.carvariety.com