วิธีเช็ครถให้พร้อมก่อนออกเดินทางใน 10 นาที ผู้หญิงก็ทำได้!

เราขอแนะวิธีเช็ครถให้พร้อมสำหรับเดินทางไกลภายใน 5 นาทีมาฝากกัน แม้แต่ผู้หญิงก็ทำได้ จะมีอะไรบ้าง?

การตรวจเช็ครถยนต์ให้มีสภาพสมบูรณ์ก่อนเดินทางไกลถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะแม้ว่ารถจะถูกใช้งานทุกวันโดยไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับการเดินทางไกล เครื่องยนต์และช่วงล่างจะถูกใช้งานหนักกว่าวิ่งในเมืองมาก หากสามารถตรวจพบสิ่งผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทัน ป้องกันเหตุรถเสียกลางทาง หรือลุกลามจนกระทั่งทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

200

สำหรับการเช็คสภาพรถเบื้องต้นใน 5 นาที มีสิ่งที่ต้องทำดังนี้

    1. เช็คของเหลวในเครื่องยนต์
    2. ควรเช็คระดับน้ำและน้ำมันในห้องเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่พอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ประกอบด้วย น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเบรก, น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ (ถ้ามี) รวมถึงระดับน้ำในหม้อน้ำ และหม้อพักน้ำ หากพบว่าน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเกียร์มีสีดำผิดปกติ เนื่องจากลุยน้ำ หรือไม่ได้เปลี่ยนถ่ายมาเป็นระยะเวลานาน ก็ควรรีบจับเปลี่ยนทันทีก่อนเดินทาง เพราะน้ำมันเหล่านี้เป็นหัวใจหลักที่จะช่วยลดการสึกหรอ

    3. เช็คสภาพยางและช่วงล่าง
    4. การเช็คสภาพยางทำได้โดยการวัดความหนาดอกยางทั้ง 4 ล้อ ว่าจะต้องไม่เหลือน้อยกว่า 3 มิลลิเมตร และจะต้องไม่มีรอยปริแตกโดยเฉพาะบริเวณแก้มยาง เพราะอาจทำให้ยางระเบิดได้หากตกหลุม หากยางมีสภาพเก่าจนแตกลายงาหรือบวม ก็ควรรีบเปลี่ยนใหม่เสียก่อน

      อีกทั้งควรเช็คการทำงานของช็อคอัพทั้ง 4 ล้อ ว่ายังสมบูรณ์ดีอยู่ ด้วยการใช้น้ำหนักตัวกดไปบริเวณตัวถังทั้ง 4 มุม ช็อคอัพที่สมบูรณ์จะมีการเด้งกลับเพียง 1 ครั้ง แต่หากตัวรถมีอาการเด้งต่อเนื่องหลายครั้งจนกว่าจะหยุด แสดงว่าช็อคอัพกลับบ้านเก่าเรียบร้อยแล้ว

    5. เช็คไฟส่องสว่างรอบคัน
    6. ไฟส่องสว่างถือเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับการเดินทางไกล นอกจากจะช่วยให้เรามองเห็นถนนยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจนแล้วนั้น รถคันอื่นยังสามารถมองเห็นเราในความมืดได้ด้วย ดังนั้น หลอดไฟทุกดวงจะต้องไม่ขาด ทั้งไฟหน้า, ไฟหรี่, ไฟสูง, ไฟท้าย, ไฟเบรก และไฟเลี้ยวทุกดวง อีกทั้งยังควรตรวจเช็คมุมองศาของไฟหน้าให้อยู่ในระดับที่พอดี ไม่สูงจนเกินไป ซึ่งจะทำให้ผู้อื่นตาพร่าได้ สามารถหาวิธีการปรับตั้งความสูงไฟหน้าได้จากคู่มือของรถแต่ละคัน

    7. เช็คสภาพใบปัดน้ำฝน
    8. การเดินทางไกลในหน้าร้อน แม้ว่าจะไม่เจอฝนตก แต่้ก็เสี่ยงที่ฝนจะตกเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ใบปัดน้ำฝนที่พร้อมใช้งาน จะต้องกวาดน้ำให้สะอาดหมดจดตั้งแต่ครั้งแรกที่ปัด หากพบว่าที่ปัดน้ำฝนเสื่อม ก็ควรรีบเปลี่ยนเสียก่อน ราคาก็แค่ไม่กี่ร้อยเท่านั้น

    9. เช็คคราบน้ำมันรั่วซึม
    10. นอกจากจะเช็คระดับน้ำและน้ำมันให้พอดีแล้ว ควรเช็คด้วยว่าไม่มีจุดรั่วซึมใดๆ ออกมาจากเครื่องยนต์และช็อคอัพ สังเกตได้จากรอยต่อของห้องเครื่องจะต้องสะอาด ไม่มีฝุ่นดำเกาะ ไม่มีคราบน้ำมันให้เห็น เช่นเดียวกับช็อคอัพทั้ง 4 ต้น

เหล่านี้เป็นการเช็คสภาพความพร้อมของรถยนต์ในเบื้องต้นเท่านั้น หากเจ้าของรถเองรู้อยู่แล้วว่ามีจุดอื่นจุดใดเสีย ซึ่งจะกระทบต่อความปลอดภัยในการขับรถแล้วล่ะก็ อย่าลืมแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนการเดินทางด้วยนะครับ

เครดิต www.sanook.com