รถใช้เกิน 100,000 กม. ควรตรวจเช็ค เปลี่ยนอะไหล่ ส่วนไหนบ้าง?

อายุประกันของรถยนต์ในปัจจุบันที่มาพร้อมกับรถใหม่ป้ายแดงส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 3ปี หรือราวๆ 100,000 กิโลเมตร ด้วยระยะทางดังกล่าวถือว่ารถคันนั้นผ่านการใช้งานมาพอสมควร ฉะนั้นเเล้ว อะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ ย่อมมีการสึกหรอชำรุดกันบ้าง เรามาดูกันว่าเมื่อรถที่ผ่านการใช้งานมาขนาดนี้เเล้ว เราควร ตรวจเช็ค โฟกัสไปที่ อะไหล่ ส่วนไหนของรถเป็นพิเศษบ้าง

ยาง

ปกติเเล้วเราควรตรวจเช็คยางรถยนต์ในระยะทุกๆ 5,000 กม. หรือทุกๆ 6 เดือน แต่ถ้ายางยังมีดอกเเละรีดน้ำได้ปกติก็ยังไม่ต้องเปลี่ยน โดยเฉลี่ยเเล้วอายุการใช่้งานของยางรถยนต์จะอยู่ที่ 70,000 – 100,000 กิโลเมตรถือเป็นตัวเลขอายุการใช้งานที่ควรเปลี่ยน

ระบบของเหลวในรถ

น้ำมันเบรค น้ำมันเกียร์ น้ำมันพาวเวอร์, น้ำมันเครื่อง, น้ำยาหล่อเย็น, น้ำมันเฟืองท้าย, น้ำมันคลัช ทั้งหมดนี่คือระบบของเหลวที่จำเป็นกับรถ

หม้อน้ำ

ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์เป็นส่วนที่สำคัญ ควรตรวจเช็คการทำงานของหม้อน้ำทั้งระบบ วาล์วน้ำ, ฝาหม้อน้ำ, น้ำในถังพักน้ำ, สายยางจากหม้อน้ำไปถังพักน้ำ, พัดลมไฟฟ้า, ยางอุดตาน้ำด้านล่าง, คอห่านที่ต่อกับท่อน้ำ

สายพานไทม์มิ่ง

สายพานไทม์มิ่ง หรืออีกชื่อที่รู้จักกันดี สายพานราวลิ้นหากเกิดขาดขึ้นมาแบบกะทันหัน อาจทำให้ก้านสูบ หรือลูกสูบแตก และวาล์วคดงอ อายุการใช้งานของสายพานไทม์มิ่ง จะอยู่ที่ 100,000 กิโลเมตร หรือสามารถเปลี่ยนก่อนได้หากรู้สึกว่าสายพานไทม์มิ่งเริ่่มชำรุด

ท่อน้ำทั้งระบบ

ท่อยางหม้อน้ำบน-ล่าง จะมีอายุการใช้งานที่สั้นอยู่เเล้ว เนื่องจากต้องทำงานกับอุณหภูมิที่ร้อนจึงทำให้มีการชำรุดได้ง่ายเป็นพิเศษ

ระบบช่วงล่าง

ควรตรวจเช็คยางหุ้มเพลาขับ, ลูกปืนล้อหน้าเเละหลัง, ผ้าเบรคกับจานเบรค รวมถึงลูกรอกและลูกปืนต่างๆ

แบตเตอรี่

ปกติแบตเตอรี่รถยนต์มีอายุการใช้งานราว 2ปี โดยปกติต้องมีการเปลี่ยนก่อนระยะ 100,000 กิโลเมตรอยู่เเล้ว ลองตรวจเช็คดูอีกครั้งว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่อีกครั้งหรือไม่

หัวเทียน

หากรู้สึกว่าเครื่องยนต์มีอาการสะดุด หรือเร่งความเครื่องยนต์เดินไม่เรียบก็ถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนหัวเทียน

ไส้กรองแอร์/กรองอากาศ

ปกติควรหมั่นทำความสะอาดเปลี่ยนกรองอากาศทุกๆ 5,000 กม.เเละควรเปลี่ยนทุกๆ 20,000 กม. เพราะหากไส้กรองอากาศอุดตันจะส่งผลเสียต่อการทำงานของเครื่องยนต์ไม่ปกติ ขณะที่ไส้กรองแอร์

เครดิต www.mthai.com