ห้างจะรับผิดชอบหรือไม่!? ถ้ารถหายในห้าง

ทุกวันนี้้หากจะใช้คำว่านอกจากบ้านเเละที่ทำงานแล้ว ห้างสรรพสินค้า ถือเป็นอีกสถานที่ๆ ประชาชนเข้าไปใช้บริการทำกิจกรรมใดๆ ก็ตามแต่มากที่สุด แน่นอนว่าหลายคนเวลาไปห้างมักจะนำรถยนต์ส่วนตัวไปเพื่อความสะดวกสบาย เมื่อถึง ห้างสรรพสินค้า ก็แค่วนหาที่จอด แต่การจอดรถใน ห้างสรรพสินค้า ก็มีความสุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเสียหาย อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นขณะที่รถคุณยังจอดอยู่ หรือแม้แต่การสูญหายของรถ

รถหาย ในห้าง – เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย ที่ผ่านมาเคยเกิดเรื่องทำนองนี้บ่อยครั้ง และทุกครั้งก็ต้องจบกันที่การฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันระหว่างห้างสรรพสินค้าเเละเจ้าของที่ รถหาย แล้วคุณคิดว่าเรื่องแบบนี้สุดท้ายเเล้วใครจะเป็นผู้ชนะในชั่นศาล ห้างสรรพสินค้า จะชดใช้ค่าเสียหายให้หรือไม่ – หรือเจ้าของรถต้องคอตกรับสภาพที่ดันเอารถไปจอดเอง

จากคดี รถหาย ที่เกิดขึ้นใน ห้างสรรพสินค้า ในอดีตที่ผ่านมาหลายๆ คดีได้บทสรุปในชั้นศาลว่า หากลูกค้านำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดที่ ห้างสรรพสินค้า ห้างต้องให้ความปลอดภัยต่อลูกค้ารวมถึงทรัพย์สินของลูกค้า หมายถึงรถยนต์ที่ลูกค้านำมาจอดที่ลาดจอดรถของ ห้างสรรพสินค้า ด้วยเช่นกัน ไม่ว่า ห้างสรรพสินค้า แห่งนั้นจะมีบัตรจอดรถแจกให้กับลูกค้าหรือไม่ คิดค่าบริการในการจอดหรือจอดฟรี หากเกิดการสูญหายของรถทางห้างต้องจ่ายสินไหมทดเเทนให้กับลูกค้าที่นำรถเข้ามาจอด

แต่ในกรณีที่บางรายแค่นำรถเข้ามาจอดใน ห้างสรรพสินค้า โดยที่ไม่ได้ซื้ออะไร หรือแค่นำรถมาจอดทิ้งไว้เเล้วเดินทางไปทำธุระที่อื่นต่อหาก รถหาย ในกรณีนี้ ทางห้างไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ่้นเพราะถือว่าเจ้าของรถไม่ได้เป็นลูกค้าที่มาใช้บริการกับทางห้าง แค่นำรถมาจอดทิ้งไว้ ทางห้างไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ กับการมาจอดรถ นั่นหมายถึงทุกครั้งเวลาที่คุณมา ห้างสรรพสินค้า เพื่อซื้อสินค้าหรือทานอาหารควรเก็บใบเสร็จหลังชำระสินค้าไว้เป็นหลักฐานด้วยทุกครั้ง เพราะหากรถหายคุณสามารถนำสลิปใบเสร็จมายืนยันได้ว่าคุณคือลูกค้าของห้างสามารถเก็บไว้ยืนยันเป็นหลักฐานฟ้องร้องศาลได้

กรณี รถหาย ใน ห้างสรรพสินค้า โรงเเรม รีสอร์ท เจ้าของรถต้องฟ้องภายในระยะเวลา 1ปี นับจากวันที่ รถหาย นอกเหนือจากนั้นจะถือว่าอายุความขาด เเละที่ขาดไม่ได้ตามที่กล่าวมา ต้องมีสลิปค่าใช้จ่าย ณ สถานที่นั่นเก็บไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง

เครดิต www.mthai.com