10 อันดับรถโดนใจแฟนหนัง จากแฟรนไชส์ Fast & Furious

ถ้านับรวมเฉพาะ Fast & Furious ทั้งหมด 8 ภาค ยังไม่รวม Hobbs & Shaw แฟรนไชส์นี้มีรถขึ้นจอมาแล้วถึง 116 คัน บางคันก็ผ่านมาแวบๆ แล้วก็โดนชน โดนยิงระเบิดไปบ้าง สร้างความเจ็บปวดใจสำหรับคนรักรถพอควร บางคันก็เปรียบเสมือนตัวละครประจำที่ขึ้นจอต่อเนื่องมาหลายภาค

ในภาคแรกๆ เราได้เห็นรถคลาสสิกที่คงความนิยมต่อเนื่องมาหลายสิบปี แต่ในภาคหลังๆ ก็เริ่มมีรถสปอร์ตรุ่นใหม่ๆ ราคาเวอร์วังมาปรากฏโฉมให้ได้เห็น ถึงแม้ว่าตลอด 8 ภาค โทนหนังจะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก แต่หนังก็ยังคอนเซ็ปต์ในเรื่องรถมากสมรรถนะไว้เป็นหัวใจหลักของเรื่อง เพราะชื่อหนังก็ยังคงมีคำว่า Fast อยู่ เว็บไซต์ Ranker ได้เปิดให้ผู้ชมทั่วโลกได้มาลงคะแนนโหวตกันว่าชื่นชอบรถคันไหนจากแฟรนไชส์ Fast กันบ้าง และนี่คือ 10 อันดับแรกในใจผู้ชม มาดูซิว่าตรงใจกันบ้างรึเปล่า แล้วปิดท้ายด้วยรายละเอียดของ Mclaren 720s รถคู่ใจของ เด็กคาร์ด ชอว์ ใน Hobbs & Shaw ด้วยครับ

10. Acura NSX (2000)

ที่จริงมันคือ Honda นะครับ แต่คนอเมริกันเรียกมันว่า Acura NSX เป็นรถคู่ใจของ มิอา ทอเรตโต บทของ จอร์ดานา บริวสเตอร์ คันนี้ปรากฏโฉมออกมาหลายภาค แต่โดดเด่นมากใน Fast & Furious (2009) และ Fast Five (2011) Acura มีภาพลักษณ์ที่ให้ทั้งความรู้สึกสวยงาม น่าทะนุถนอม แต่ก็ดูมีความสมบุกสมบันผสมอยู่ในตัว เป็นรถที่สะดุดตาโดดเด่นโดยไม่ต้องใช้เทคนิค CGI มาช่วยเสริมแต่อย่างใด Acura ถูกผลิตมาหลายเจเนอเรชัน เริ่มมาตั้งแต่ปี 1984 เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดกลาง 3 ลิตร ขับเคลื่อนล้อหลัง ราคาปัจจุบันประมาณ 1.6 ล้านบาท

9. Koenigsegg CCX-R (2010)


ปรากฏโฉมมาในตอนท้ายของ Fast Five ที่ โรมัน เพียร์ซ และ เทจ พาร์กเกอร์ ซื้อกันมาคนละคัน ซึ่งโรมันโอ้อวดว่าเป็นรถที่ผลิตมาแค่ 4 คันเท่านั้น แม้เป็นบทพูดในหนังแต่นั่นก็คือเรื่องจริง แล้วเจ้าของรายหนึ่งก็คือ ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ จูเนียร์ นักมวยชาวอเมริกัน Koenigsegg CCX-R เป็นรถยนต์สัญชาติสวีเดนที่ผลิตมาด้วยแนวคิดรักษ์โลก เพราะใช้เชื้อเพลิงเอธานอล แต่มันก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อความเร็วเลย เพราะมันพร้อมกับเครื่องยนต์ทรงพลัง 1,000 แรงม้า เร่งได้เร็วสูงสุดถึง 400 กม./ชม. เร่งความเร็วจาก 0 – 100 ภายในเวลา 2.9 วินาที ราคาก็จุ๋มจิ๋มมากแค่ 163 ล้านบาท

8. Ford Mustang (1967)


คันนี้โผล่มาฉากท้ายเรื่อง “The Fast and the Furious: Tokyo Drift” เป็นรถของ ฌอน บอสเวลล์ พระเอกภาคเดียว คันนี้เป็น Ford Mustang ปี 1967 ที่ฌอน บอกว่าเป็นรถของพ่อเขา แต่เอามาใส่เครื่อง Nissan RB26DETT ของนิสสัน ทำให้ฉากนี้โดนวิจารณ์อย่างหนักจากชาวอเมริกันผู้รักและภูมิใจในแบรนด์ Ford ที่เอา Muscle Car ความภูมิใจของชาติอเมริกันมาใส่เครื่องยนต์ 6 สูบของนิสสัน เพื่อเอามาดริฟต์โชว์ แต่ต้องไม่ลืมนะว่าภาคนี้ชื่อว่า Tokyo Drift ถ่ายทำในญี่ปุ่น ก็ต้องให้เกียรติญี่ปุ่นเขาหน่อย ราคาปัจจุบันประมาณ 3,250,000 บาท

*Muscle Car เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกรถสปอร์ต 2 ประตูของอเมริกัน ที่ผลิตมาในช่วง 60s – 70s

7. W Motors Lykan HyperSport (2013)


แน่นอนว่าทุกคนต้องจำฉาก “Car Don’t Fly” กันได้ เพราะเป็นฉากที่โคตรเวอร์วังฉากหนึ่งในแฟรนไชส์ Fast แล้ว เมื่อ ดอม และ ไบรอัน ซิ่งรถสปอร์ตสีแดงเพลิงพุ่งทะลุกระจกตึกระฟ้าคู่ จากอาคารหนึ่งไปอีกอาคารหนึ่ง และไอ้โคตรรถคันนี้ก็คือ Lykan HyperSport ที่ราคาแพงระยับถึง 103 ล้านบาท ราคาส่วนใหญ่หนักไปที่ไฟหน้าของมัน เพราะมีเพชร 15 กะรัต 420 เม็ดเป็นส่วนประกอบอยู่ในไฟหน้า และภายในรถยังตกแต่งด้วยเพชรและแซฟไฟร์ เดี๋ยวจะหาว่ามีดีแค่สวยหรูแต่สมรรถนะเครื่องยนต์ก็ไม่น้อยหน้า มาพร้อมกับความแรง 720 แรงม้า เร่งจาก 0 – 100 ได้ภายใน 2.8 วินาที เห็นหน้าตาโฉบเฉี่ยวขนาดนี้ แล้วอาจจะคิดว่าเป็นรถยุโรป แต่มันคือรถสปอร์ตสัญชาติเลบานอน ที่ผลิตออกมาเพียงแค่ 7 คันเท่านั้น มีเพชรอยู่ในไฟหน้า จะกล้าเอาไปจอดทิ้งไว้ไหนไหมเนี่ย

https://youtu.be/JVg5X7dUlLM

6. Dodge Challenger (1970)

คันนี้เป็นรถของโรมัน เพียร์ซ ปรากฏโฉมมาใน 2 Fast 2 Furious ภาคเดียว ในฉากต้นเรื่องเมื่อ โรมัน เพียร์ซ และ ไบรอัน ขับเจ้าคันนี้มาเข้าร่วมแข่งขันความเร็วบนท้องถนน แล้วทั้งคู่ก็เป็นฝ่ายคว้าชัย Dodge Challenger มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 7.0L (6982 CC) ทำให้มันเป็นหนึ่งในหลายๆ คันในแฟรนไชส์นี้ที่เครื่องยนต์ส่งเสียงกระหึ่มเร้าใจ เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของประวัติศาสตร์รถยนต์อเมริกัน Dodge Challenger (1970) จัดอยู่ในประเภทรถ Pony Car รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ราคาปัจจุบัน 1.5 ล้านบาท

5. Mazda RX-7 (1993)

เป็นรถน้อยคันในแฟรนไชส์ที่ได้โผล่มาถึง 3 ภาค The Fast and the Furious, 2 Fast 2 Furious และ The Fast and the Furious: Tokyo Drift แต่ที่มีบทบาทมากสุดคือใน The Fast and the Furious มาในฐานะรถคันแรกของดอม ที่ลงชิงความเร็วบนถนนด้วยกัน 4 คัน และหนึ่งในนั้นก็คือ ไบรอัน โอ’คอนเนอร์ ฉากนี้ถูกยกย่องให้เป็นฉากแข่งรถที่ยอดเยี่ยมที่สุดฉากหนึ่งในประวัติศาสตร์ ซึ่งเราไม่ได้สัมผัสฉากแบบนี้อีกแล้วในภาคหลังๆ อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจดจำก็คือมันเป็นรถที่ฮานขับใน The Fast and the Furious: Tokyo Drift ราคาปัจจุบันประมาณ 1.2 ล้านบาท

4. Mitsubishi Eclipse (1995)

ในฉากเดียวกันจาก The Fast and the Furious นี่คือรถคันแรกของไบรอัน โอ’คอนเนอร์ ที่เขาใช้แข่งกับดอม และไบรอันต้องการเอาชนะ จึงเพิ่มพลังด้วย NOS จนรถเกิดขีดจำกัดแล้วก็น็อกไปกลางคัน Mitsubishi Eclipse โผล่มาในภาคแรกนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ก็สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม คันนี้มากับเครื่องยนต์ 420A Neon 16-วาล์ว DOHC 2 ลิตร 4 สูบ 210 แรงม้า ในการถ่ายทำฉากนี้ ทีมงานใช้รถ Mitsubishi Eclipse ถึง 4 คัน คันแรกคือคันที่ขับเข้าฉาก ภายหลังถูกประมูลไปสูงถึง 4 ล้านบาท ส่วนคันที่ 2 ใช้ถ่ายทำฉากภายใน ไม่มีล้อและเครื่องยนต์ คันที่ 3 และ 4 ให้สตันท์แมนขับแต่ไม่ได้เสียหายรุนแรง พิพิธภัณฑ์รถยนต์โวโลเลยมาขอซื้อไป สุดท้ายก็ขายต่อไปให้กับสาวก Fast ส่วนในบ้านเราหาซื้อกันได้ในราคาไม่ถึง 1 แสนบาทครับ

3. Toyota Supra Turbo MkIV (1995)

นี่คือดาราเด่นอีกรายหนึ่งใน The Fast and the Furious เพราะไบรอัน ไปขุดซากมันมาจากลานขยะ แล้วก็เอามาคืนชีพให้มันใหม่ในอู่ของดอม เป็นความภาคภูมิใจของไบรอันที่ใช้เวลาทั้งเรื่องในการชุบชีวิตให้กับเจ้า Supra คันนี้ ฉากที่เจ้า Supra ได้ประกาศศักดาก็คือฉากที่ ไบรอัน กับ ดอม เอามันออกมาทดสอบด้วยการแข่งกับรถสปอร์ตสุดหรูอย่าง Ferrai F355 Spider ปีที่แล้ว Supra คันที่ พอล วอล์กเกอร์ ขับในเรื่องนี้ ถูกประมูลไปที่ 5.6 ล้านบาท ส่วนมือสองในบ้านเรามีขายกันอยู่ที่ 900,000 – 1,500,000 บาท

2. Dodge Charger (1970)


ปรากฏตัวครั้งแรกใน The Fast and the Furious ในฐานะรถคู่กายของดอม แม้ว่าจะพังเละเทะในฉากที่แข่งกับ Supra ของไบรอัน แต่มันก็กลับมาในฐานะรถคู่กายของดอมอีกในภาค 5, 6, 7 ทำให้มันกลายเป็นภาพลักษณ์จดจำคู่กับตัวละครดอม Dodge Charger คันที่ดอมขับในแฟรนไชส์ ทุกวันนี้ยังจอดโชว์อยู่ที่พิพิธภัณฑ์โวโล ในอิลลินอยส์ ซึ่งใครก็สามารถเป็นเจ้าของได้ ถ้ามีเงิน 4.6 ล้านบาท

1. Nissan R34 Skyline GT-R (1999)


โผล่มาแค่ภาคเดียวใน 2 Fast 2 Furious ในฐานะรถคู่ใจของไบรอัน โอ’คอนเนอร์ แต่ก็ได้โชว์สมรรถนะเท่ๆ ในหลายฉาก โดยเฉพาะฉากที่ ไบรอัน ขับมันพุ่งข้ามสะพานที่กำลังยกตัว แม้ว่าตลอดแฟรนไชส์ ไบรอัน โอ’คอนเนอร์ จะขับรถหลายคันมาก แต่วีรกรรมตอนที่เขาอยู่กับเจ้า Nissan R34 Skyline GT-R ได้รับการจดจำจากคนดูมากที่สุดจนขึ้นอันดับ 1 (บางตาราง Dodge Charger อยู่ในอันดับที่ 1) ราคาของ Nissan R34 Skyline GT-R ดุเดือดมากเพราะเริ่มตั้งแต่ 3.6 – 7.2 ล้าน แล้วแต่สภาพของรถ

แถมท้ายด้วย Mclaren 720S รถที่ได้โชว์เท่ใน Hobbs & Shaw

McLaren 720s เป็นรถยนต์สัญชาติอังกฤษ เจ้าของคือ รอน เดนนิส ผู้คร่ำหวอดในแวดวงรถแข่งฟอร์มูล่าวัน ก็เลยวิทยาการในการสร้างรถแข่งมาใส่ในรถสปอร์ตที่ให้ผู้คนทั่วไปได้เป็นเจ้าของได้ เขาก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี 1985 โดยมี Tag บริษัทยักษ์ใหญ่จากลักเซมเบิร์กมาลงทุนร่วม แล้วในปี 2010 รอน จึงตัดสินใจซื้อหุ้นทั้งหมดแล้วเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว แล้วจดทะเบียนในชื่อ McLaren Automotive

McLaren 720s นับว่าเป็นรถรุ่นที่ 2 ที่ผลิตภายใต้ชื่อ Mclaren Automotive ต่อเนื่องจากรุ่น 650s ด้วยสายงานการผลิตที่พิถีพิถันใช้ฝีมือมนุษย์มากกว่าเครื่องจักร ทำให้ McLaren ผลิตรถยนต์ได้วันละ 20 คันเท่านั้น ในขณะที่รถญี่ปุ่นอย่างฮอนด้า หรือ โตโยต้า ผลิตได้วันละกว่า 10,000 คัน

ในประเทศไทยมีผู้เป็นเจ้าของ McLaren เพียง 3 คันเท่านั้น สนนราคาคันละ 26.5 ล้านบาท ถ้ารวมชุดแต่งแบบเต็มพิกัดก็ 32 ล้านบาท ในราคานี้คุณจะได้เป็นเจ้าของรถสปอร์ตที่พุ่งทะยานไปได้ถึง 360 กม./ชม. ไต่ความเร็วจาก 0 – 100 ในเวลาแค่ 2.5 วินาที ได้เป็นเจ้าของรถที่รูปโฉมเท่โฉบเฉี่ยว ไปไหนก็เป็นเป้าสายตา ด้วยประตูเปิดขึ้นทรงปีกนก เต็มภาพลักษณ์รถสปอร์ต ขับเคลื่อนอย่างสุดมันส์ด้วยเกียร์ 7 สปีด 2 คลัตช์ นั่งได้ 2 ที่นั่งเท่านั้นเพราะมีเครื่องยนต์วางอยู่ตรงกลางตัวรถ

แหมอยากถอยมาวิ่งผ่านลาดพร้าวสักคัน จอดข้างๆ รถเมล์ให้คนมอง ว่า 26.5 ล้านก็จอดนิ่งๆ ไปไหนไม่ได้เหมือนกัน

เครดิต www.sanook.com