ทำไม Honda Civic ถึงถูกใจคนใช้รถ

เก็บไว้ต่อไปไม่ได้ละ เรื่องเด็ดๆ แบบนี้ต้องบอกต่อ จากหลายคนที่บอกว่าคุณต้องเป็นเจ้าของ Honda Civic ขอบอกเน้นๆ ตรงนี้ว่า ทั้งเรื่องเครื่องยนต์ สมรรถนะ ไลฟ์สไตล์ ความปลอดภัย พร้อมกับเทคโนโลยีแบบจัดเต็ม เป็นอีกหนึ่งรถยนต์ในกลุ่ม C-Segment ที่เป็นผู้นำด้านความสปอร์ตตัวจริง ต้องยกให้รุ่นนี้เป็นตัวเลือกแรกในการตัดสินใจเลือกซื้อ

เพื่อทำให้เห็นภาพชัดมากขึ้น เราได้แยกรายละเอียดของแต่ละหัวข้อที่น่าสนใจของ Honda Civic ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อรถได้ง่ายขึ้น

SPEEDxSPORTY  สิ่งที่เห็นได้ชัดถึงความสปอร์ตของ Honda Civic คงต้องเป็นความสวยงามของรูปลักษณ์ภายนอกที่ถูกออกแบบให้มีความสปอร์ตรอบคัน ทั้งกันชนหน้าและกระจังหน้า ไฟหน้าดีไซน์สปอร์ต พร้อม LED Daytime Running Light ทางด้านไฟท้ายเป็นแบบ LED รูปตัว C ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของซีวิคเท่านั้น กันชนหลังมีการตกแต่งด้วยโครเมียม รวมไปถึงล้ออัลลอย 17 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต
เมื่อมองจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ได้รับการดีไซน์มาใหม่ของซีวิค มีความเป็นสปอร์ตมากขึ้นน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนที่ชอบความสมาร์ทและโดดเด่น

SPEEDxSPACE เครื่องยนต์ของ Honda Civic มี 2 ทางเลือก คือเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร i-VTEC 141 แรงม้า และเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 1.5 ลิตร VTEC TURBO ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 173 แรงม้า ที่มาพร้อมห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ กว้างขวาง มีพื้นที่ใช้สอยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียบ และดีไซน์ห้องโดยสารยังออกแบบมาให้สะดวกสบาย และมาพร้อมความเท่แบบสปอร์ตกับคอนโซลสไตล์สปอร์ตให้การขับขี่ที่สนุกขึ้น หน้าจอแสดงรายละเอียดและมองเห็นอย่างชัดเจน เบาะหนังสีดำเย็บด้วยด้ายสีแดงดีไซน์ช่วยสร้างบรรยากาศในการขับให้รู้สึกสนุกมากขึ้น แถมยังสะดวกสบายกว้างขวางอีกด้วย


SPEEDxSENSE นอกจากเทคโนโลยีความปลอดภัยพื้นฐานที่มีในฮอนด้า ซีวิค แล้ว รอบนี้ทาง Honda ยังเสริมเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่าง Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะในฮอนด้า ที่ผสานการทำงานของเรดาร์กับกล้องด้านหน้าในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนและช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน ประกอบด้วยระบบต่างๆ

•    COLLISION MITIGATION BRAKING SYSTEM (CMBS) ระบบเตือนการชนรถ และคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก โดยระบบจะเตือนเมื่อมีสิ่งกีดขวางหน้ารถและอยู่ในระยะที่อันตราย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยเมื่อมีรถสวนทาง ซึ่งถ้าหากผู้ขับขี่ยังไม่มีการตอบสนองหรือรถอยู่ในระยะของการชนแล้ว ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกให้อัตโนมัติ เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงหรือลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ

•    ADAPTIVE CRUISE CONTROL WITH LOW-SPEED FOLLOW (ACC WITH LSF) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ การทำงานของระบบนี้เริ่มจากการที่ผู้ขับขี่ได้ตั้งค่าความเร็วเอาไว้ หลังจากนั้นเมื่อขับขี่ระบบจะมีกล้องและเรดาร์จับรถคันหน้า เพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้เหมาะสม และเมื่อไหร่ที่เราขับขี่ด้วยความเร็วที่ต่ำ เช่นรถติด ระบบจะปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้ารวมถึงการเบรกและหยุดตามอัตโนมัติ และระบบจะกลับมาทำงานปกติก็ต่อเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มพวงมาลัย หรือเหยียบคันเร่ง

•    LANE KEEPING ASSIST SYSTEM (LKAS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ โดยกล้องด้านหน้าจะตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งเมื่อไหร่ที่รถกำลังไปในทิศทางที่จะออกจากช่องทางการเดินรถ ระบบจะเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัยเพื่อช่วย หรือเตือนให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางปกติ

•    ROAD DEPARTURE MITIGATION SYSTEM WITH LANE DEPARTURE WARNING (RDM WITH LDW) ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ เป็นระบบที่ใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นจราจร เมื่อไหร่ที่ระบบตรวจจับได้ว่าเรากำลังออกนอกเส้นทางอย่างไม่ตั้งใจ ระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ และการสั่นของพวงมาลัย และถ้าหากเรายังไม่มีการควบคุมรถให้กลับมาในช่องทางเดิม ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัยให้รถกลับมาอยู่ในช่องทางการเดินรถ แต่เมื่อไหร่ที่รถออกนอกช่องทางเดินรถขนาดที่อยู่ในสภาวะอันตรายที่จะเกิดอุบัติเหตุ ระบบจะช่วยชะลอความเร็วให้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หรือช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น (โดยระบบจะตรวจจับจากเส้นถนนทึบเป็นหลัก)

•    AUTO HIGH-BEAM (AHB) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ เมื่อขับรถไปในที่มืด ไฟหน้ารถจะถูกปรับเป็นไฟสูงโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการมองให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเมื่อกล้องหน้าตรวจเจอรถวิ่งสวนทางมา จะเปลี่ยนเป็นไฟต่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสายตาของผู้ขับขี่รถคันที่กำลังวิ่งสวนทาง ถือเป็นระบบความปลอดภัยที่ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ต้องคอยกังวลกับการปรับไฟสูง-ต่ำ อยู่ตลอดเวลา

Honda SENSING จึงเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัย ที่จะเป็นตัวช่วยที่สำคัญเพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ฮอนด้าสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจ

SPEEDxSAVE การที่ฮอนด้านำเครื่อง 1.5 ลิตร VTEC TURBO มาประจำการในบอดี้ของซีวิค จากที่เคยทดสอบ บอกได้อย่างมั่นใจเลยว่าเป็นรถที่แรง และขับสนุกถ้าเทียบกับในรถกลุ่มเดียวกัน
แม้ว่าเครื่องยนต์จะมี ซีซี ที่น้อยลง แต่เรื่องความแรงบอกได้เลยว่าเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เพราะเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร VTEC TURBO มีการติดตั้งชุดเทอร์โบ ที่ช่วยในการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ซึ่งสามารถรีดแรงม้าได้สูงถึง 173 แรงม้า และมีแรงบิดสูงถึง 220 นิวตันเมตร และนอกจากเรื่องของความประหยัดเชื้อเพลิง ทางฮอนด้ายังได้ใช้เทคโนโลยี Direct Injection ซึ่งเป็นการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง จึงทำให้ประหยัดน้ำมันเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร

4 ข้อหลักๆ ที่ทำให้คุณต้องตัดสินใจเลือกฮอนด้า ซีวิค มาไว้ครอบครอง ได้ทั้งความสปอร์ตที่ทำให้คนเหลียวมอง ห้องโดยสารกว้างขวาง เครื่องยนต์ใหม่บวกความแรงแบบเทอร์โบแต่ประหยัดน้ำมัน พร้อมทั้งความปลอดภัยจากเทคโนโลยี Honda SENSING ครบถ้วนสำหรับรถยนต์ยุคใหม่ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของยนตกรรมพรีเมียมสปอร์ตซีดาน ฮอนด้า ซีวิค หากคุณกำลังมองหารถยนต์ขนาด c-segment สักคันที่ตอบโจทย์ทุกด้าน ขอเชิญทดลองขับ ฮอนด้า ซีวิค ได้แล้วที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

 

 

เครดิต www.autospinn.com