เคยเจอกันไหมกับการโดนปาดหน้าเพราะจะเปลี่ยนช่องทางจราจรหรือเกือบชนท้ายรถเพราะมีรถข้างหน้าจะเลี้ยวกะทันหัน จนทำให้อุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนนั้นหลักๆคือเกิดจากความประมาท ของผู้ใช้รถล้วนๆ ตัวอย่างของความประมาทที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ เรื่องสัญญาณไฟเลี้ยว

สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยๆ ก็คือ การไม่ให้สัญญาณไฟในการขับรถ เช่น ขับรถออกจากที่จอด, จอดรถซื้อของ,เปลี่ยนช่องจราจรโดยไม่เปิดสัญญานไฟเป็นต้น ทำให้รถคันที่ตามหลังมานั้นเกิดอุบัติเหตุ

วันนี้แอดจะมาบอกข้อควรปฏิบัติของการใช้ไฟเลี้ยวในสถานการณ์ต่างๆ

1.ขับรถเปลี่ยนช่องจราจร

เมื่อไหร่ที่เราต้องการจะเปลี่ยนช่องจราจรควรเปิดไฟเลี้ยวไปในทางทิศทางที่เราจะเลี้ยว และที่สำคัญต้องเปิดให้คันที่ตามมาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยก็เลี้ยวไปได้เลย ใช้ได้ทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์

2.ต้องการกลับรถ

เมื่อไหร่ที่เราต้องการจะกลับรถ ควรเปิดสัญญานไฟเลี้ยวให้คันที่ตามมาด้านหลังรู้ล่วงหน้าอย่างน้อย 30เมตร ชะลอความเร็วเมื่อถึงทางกลับรถ หากเห็นว่าปลอดภัยก็กลับรถได้

3.การเลี้ยวเข้าทางร่วมทางแยก

หากต้องการจะเลี้ยวเข้าซอย หรือ ทางแยก ถ้าเทียบความเร็ว รถวิ่งอยู่ที่ 30กม./ชม. ก็ให้เปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าก่อน 30 เมตร ถ้ารถวิ่งอยู่ที่ 60 กม./ชม. ให้เปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าก่อน 60 เมตร ก่อนถึงทางแยกเพื่อบอกให้คันด้านหลังที่ขับตามมารู้ว่าคันของเราจะเลี้ยว

4.การเลี้ยวเข้าวงเวียน

ในกรณีนี้หากเราจะทำการเข้าวงเวียนควรเปิดไฟเลี้ยวขวาล่วงหน้า เพื่อบอกเป็นสัญญานว่าเราจะเข้าวงเวียน เว้นแต่ในกรณีที่มีรถเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวา พร้อมกัน ให้รถเลี้ยวซ้ายให้ทางแก่รถเลี้ยวขวาก่อนเสมอ

เป็นยังไงกันบ้างครับ ไม่ยากเลยใช่ไหมครับกับการใช้ไฟเลี้ยวในสถานการณ์ต่างๆ เปิดสักนิดเพื่อชีวิตที่ปลอดภัย

 

 

เครดิต www.autospinn.com