ช่วงนี้หลายคนจำเป็นต้องทำงานอยู่ที่บ้านแทนการเดินทางไปยังออฟฟิศ รถคันโปรดที่ใช้อยู่เป็นประจำก็เลยต้องจอดอยู่นิ่งๆ แทบจะไม่ได้ขยับไปไหน เราจึงขอแนะนำวิธีดูแลรถในช่วง Work from home ต้องทำอย่างไรบ้าง?

1. หมั่นเติมลมยางให้เหมาะสมอยู่เสมอ

     แม้ว่ารถจะถูกจอดทิ้งเอาไว้เฉยๆ แต่ลมยางก็จะค่อยๆ ซึมออกไปได้ตลอดเวลา จึงควรหมั่นเช็กแรงดันลมให้ได้ตามที่ผู้ผลิตกำหนดไว้เสมอ (สามารถเช็กลมยางที่เหมาะสมได้จากสติกเกอร์ที่แปะไว้บริเวณด้านในของเสา B หรือด้านในของฝาปิดถังน้ำมัน) วิธีนี้ยังเป็นการถนอมยางให้คงรูปอยู่เสมอ ป้องกันแก้มยางปริเนื่องจากถูกกดทับในตำแหน่งเดิมเป็นเวลานาน

2. จอดรถในที่ร่มป้องกันการโดนแสงแดด

     เลือกตำแหน่งจอดรถที่มีร่มเงาเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รถโดนแสงแดดที่แผดเผาตลอดทั้งวัน จะช่วยป้องกันไม่ให้รถสีซีดเนื่องจากความร้อน ช่วยถนอมขอบยางประตูและส่วนต่างๆ ไม่ให้แห้งแข็งจนเสื่อมประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการลดความร้อนภายในห้องโดยสารเพื่อไม่ให้ชิ้นส่วนที่เป็นหนังและพลาสติกเสื่อมสภาพอีกด้วย

3. หมั่นล้างรถเป็นประจำ

     แม้ว่าจะไม่ได้ขับรถออกไปไหน แต่ก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นและขี้นกเกาะบนตัวถังรถอยู่เสมอ จึงควรล้างรถเมื่อมีโอกาส เพื่อป้องกันไม่ให้ขี้นกทำร้ายสีรถจนเกิดเป็นรอยด่าง หรืออาจใช้วิธีซื้อผ้าคลุมรถมาคลุมไว้ จะช่วยปกป้องรถจากฝุ่นและขี้นกได้อย่างเห็นผล แต่ควรระวังปัญหารอยขีดข่วนที่เกิดจากผ้าคลุมรถด้วย

     หมั่นตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ด้วยตาเปล่าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นระดับน้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเบรก, น้ำหล่อเย็น ฯลฯ ให้ได้ระดับอยู่ตลอดเวลา รวมถึงตรวจสอบว่าไม่มีการรั่วซึมของน้ำมันปรากฏให้เห็น

     ส่วนแบตเตอรี่แนะนำให้ซื้อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ติดบ้านไว้ จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ออกไปได้ในระหว่างที่ไม่ใช้รถ และทำให้มีพลังงานไฟเพียงพอเมื่อต้องการนำรถไปใช้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ประเภท Smart Charger ให้เลือกหลายยี่ห้อ สามารถชาร์จทิ้งข้ามคืนไว้ได้อย่างปลอดภัย และไม่ต้องถอดแบตเตอรี่ออกมาจากตัวรถ

2

5. ขับไปใช้งานบ้างเป็นครั้งคราว

     หากบ้านมีรถคันเดียวก็คงไม่ต้องเป็นกังวลในจุดนี้ แต่หากมีรถหลายคันก็ควรสลับนำออกไปใช้งานบ้าง จะได้ไม่เกิดปัญหากับชิ้นส่วนที่ต้องมีการขยับตัว ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่าง, เครื่องยนต์, ระบบเกียร์, ปั๊มติ๊ก, มอเตอร์กระจกไฟฟ้า ฯลฯ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้

     รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมใช้อยู่เสมอด้วยนะครับ

 

 

เครดิต www.sanook.com