ในช่วงที่สภาพอากาศในเมืองไทยร้อนระอุเช่นนี้ มีวิธีใดบ้างที่จะสามารถจอดรถไว้กลางแดดโดยไม่ทำให้ห้องโดยสารภายในรถร้อนจัดจนกลายเป็นเตาอบเคลื่อนที่…!

การจอดรถทิ้งไว้กลางแดด แม้ว่าหลายคนจะมองว่าไม่เป็นไร ขึ้นมาบนรถเปิดแอร์ฉ่ำๆ แป๊ปเดียวก็เย็น แต่ในความเป็นจริงนั้น นิสสันประเทศญี่ปุ่นเคยเผยผลทดลองการจอดรถไว้กลางแสงแดดจัด จะทำให้ห้องโดยสารที่ปิดหน้าต่างสนิททั้ง 4 บานมีอุณหภูมิพุ่งสูงสุดถึง 70 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากจะเป็นระดับอุณหภูมิที่อันตรายต่อสิ่งมีชีวิตภายในรถแล้วนั้น ยังทำให้ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ภายในรถเกิดการเสื่อมสภาพจากความร้อนเร็วกว่าปกติอีกด้วย

 

     การหลีกเลี่ยงจอดรถกลางแจ้งจึงถือเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อช่วยยืดอายุชิ้นส่วนภายในรถให้ยาวนานขึ้น แต่หากไม่สามารถหาที่จอดรถในร่มได้จริงๆ แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำวิธีที่จะช่วยลดความปลอดภัยภายในห้องโดยสารจากการจอดรถไว้กลางแจ้งแบบง่ายๆ มาฝากกัน

1. พยายามหาร่มเงามากที่สุดเท่าที่จะหาได้

     ควรเลือกจอดรถในตำแหน่งที่มีร่มเงาจากต้นไม้หรือหลังคา แม้ว่าจะครอบคลุมตัวรถได้เพียงบางส่วน แต่ก็ช่วยลดโอกาสที่ชิ้นส่วนต่างๆ ภายในรถจะถูกสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นระยะเวลานานได้

2. หาซื้อม่านบังแดดแบบพับได้มาใช้

     ม่านบังแดดแบบพับได้ถือเป็นไอเท็มพื้นฐานที่ควรมีติดไว้ในรถทุกคัน เพราะสามารถลดความร้อนจากภายนอกที่เข้ามายังห้องโดยสารได้ขณะจอดรถ และช่วยป้องกันแดดเลียแผงคอนโซลและอุปกรณ์อื่นๆ จนทำให้มีสีซีดจาง

     ทางที่ดีควรเลือกม่านบังแดดที่สามารถสะท้อนแสงได้ดี มีความหนาเพียงพอที่จะปล่อยให้แสงเล็ดลอดเข้ามาได้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

3. แง้มกระจกหน้าต่างลงเล็กน้อยทั้ง 2 ข้าง

     หากจอดรถไว้ในพื้นที่ส่วนตัวที่มีความปลอดภัย การแง้มกระจกหน้าต่างลงเล็กน้อยจะช่วยลดความร้อนสะสมภายในห้องโดยสารได้ แต่ที่สำคัญ คือ ควรลดกระจกทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาลงอย่างน้อยข้างละ 1 บาน เพื่อให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวกกว่าการลดกระจกลงเพียงข้างเดียว

     นอกจากนี้ ยังมีข้อควรระวังในเรื่องการเก็บสิ่งของบางประเภทไว้ภายในรถขณะจอดกลางแจ้ง เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเสียหายจากความร้อนได้ เช่น กระป๋องสเปรย์, ไฟแช็ก, น้ำหอมติดรถ,​ ถุงหอมต่างๆ (เช่น พิมเสน, การบูร ฯลฯ), เพาเวอร์แบงค์, กระป๋องหรือขวดน้ำอัดลมที่ยังไม่ได้เปิด เป็นต้น

     เพียงเท่านี้ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และชิ้นส่วนภายในรถขณะจอดทิ้งไว้กลางแจ้งได้แล้วล่ะครับ

 

 

เครดิต www.sanook.com