อาการรถวิ่งผิดปกติ ส่วนหนึ่งเกิดจากการทำงานของระบบคลัทช์ที่เสื่อมสภาพ แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าอาการเหล่านั้นมีสาเหตุมาจากระบบคลัทช์ บทความนี้ออโต้สปินน์มีวิธีสังเกตมาฝากครับ

คลัทช์ลื่น อาการของคลัทช์ลื่นคือ เครื่องยนต์ทำงานด้วยรอบเครื่องที่สูงขึ้นแต่ความเร็วรถยนต์ลดลงกว่าปกติ หรือรถไม่มีกำลัง โดยเฉพาะการขึ้นทางลาดชัน เกิดมาจากการขับขี่ที่กระชาก หรือการตั้งคลัทช์ที่ไม่เหมาะสมกับกำลังของเครื่องยนต์ จนทำให้คลัทช์เกิดอาการยัน ส่งผลทำให้คลัทช์ลื่น หรือคลัทช์ไหม้ได้ ซึ่งการแก้ไข ทำได้ด้วยการ เปลี่ยนผ้าคลัทช์ หวีคลัทช์ใหม่ หรือเจียรฟลายวิล อาการคลัทช์ลื่นเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่าคลัทช์กำลังจะหมด

คลัทช์สั่น เป็นอาการที่พบได้บ่อย ซึ่งมักจะเกิดในขณะเข้าเกียร์ 1 หรือเกียร์ถอยหลัง โดยเมื่อเข้าเกียร์และปล่อยคลัทช์ เครื่องจะมีอาการสั่นหรือเขย่า ซึ่งเกิดจากการจับผ้าคลัทช์ได้ไม่เต็มหน้าสัมผัส ทำให้เกิดอาการคลัทช์สั่น สามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนผ้าคลัทช์ เจียรหน้าฟลายวิล หรือเปลี่ยนหวีคลัทช์ใหม่

คลัทช์แตก เกิดจากการขับขี่ที่รุนแรง เช่น การเหยียบคลัทช์แรง ๆ ขณะเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งอาจทำให้ชิ้นส่วนของชุดคลัทช์เกิดความเสียหาย หรืออาจเกิดจากโครงผ้าคลัทช์ที่ไม่ได้คุณภาพ หรือถูกออกแบบมาไม่เหมาะสมกับแรงบิดของรถ หรือแม้กระทั่งอาจเกิดจากสปริงจานคลัทช์เสีย ซึ่งหากคลัทช์แตก รถจะเข้าเกียร์ไม่ได้ สามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนผ้าคลัทช์ใหม่

คลัทช์รั่ว เกิดจากการรั่วซึมของชิ้นส่วนแม่ปั๊มคลัทช์บน หรือ แม่ปั๊มคลัทช์ล่าง หรือสายอ่อนคลัทช์แตก จนไม่มีแรงดันน้ำมันไปกดชุดคลัทช์ วิธีแก้ไข คือ หารอยรั่ว และซ่อมแซมโดยทันที รวมถึงไม่ควรเติมน้ำมันคลัทช์ขณะที่ยังมีอาการคลัทช์รั่ว

และทั้งหมดนี้ก็คืออาการที่พบเห็นได้บ่อยครับ หากเราทราบเร็วแก้ไขได้ทันท่วงทีความเสียหายอาจไม่มาก แต่ถ้าเรารู้ช้า ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจลุกลาม

 

 

เครดิต www.autospinn.com