หลังจาก วางแผนถอยรถป้ายแดง แล้ว คราวนี้หันมาคำนวณเงินดาวน์และเงินผ่อนที่จะไม่เป็นภาระต่อกระเป๋าสตางค์กันดีกว่า ซื้อรถป้ายแดง ดาวน์เท่าไหร่ดี?

ซื้อรถป้ายแดง ดาวน์เท่าไหร่ดี?

เงินก้อนแรกที่ต้องจ่ายให้ไฟแนนซ์ ก็คือเงินดาวน์ หากวางเงินดาวน์มาก ก็จะช่วยลดภาระในการผ่อนรายเดือนได้ง่ายขึ้น ก่อนอื่นให้ดูอัตราดอกเบี้ย ปกติดอกเบี้ยสำหรับการกู้ซื้อรถจะคิดแบบคงที่ (Flat Rate) โดยคิดจากมูลค่าของเงินกู้ก้อนแรกเสมอ เช่น รถยนต์ราคา 650,000 บาท หากเราวางเงินดาวน์ 200,000 บาท ก็ต้องกู้เพิ่มอีก 450,000 บาท หากไฟแนนซ์คิดดอกเบี้ย 5% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระ 5 ปี ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายคือ 450,000 x 5/100 = 22,500 บาทต่อปี แต่หากเราจ่ายเงินดาวน์รถมากกว่า 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยก็จะถูกลง เช่น วางเงินดาวน์ 300,000 บาท ดอกเบี้ยก็จะเท่ากับ 350,000 x 5/100 = 17,500 บาทต่อปี เป็นต้น


ซื้อรถป้ายแดง ดาวน์เท่าไหร่ดี?

หากเรามีเงินดาวน์มาก การดาวน์รถด้วยวงเงินจะเป็นการดีกว่า เพราะดอกเบี้ยสินเชื่อรถเป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ คำนวณครั้งเดียวและมีผลไปจนถึงงวดสุดท้าย โดยการวางเงินดาวน์ให้เหมาะสม ควรดาวน์รถอยู่ที่ 25-40% ของราคารถ หากดาวน์น้อยกว่า 20% อาจต้องมีคนค้ำประกันให้ด้วย หรือหากรายรับไม่ถึง 2 เท่าของค่างวด ก็อาจต้องใช้ตัวช่วยอื่น ๆ  อาทิ การกู้ร่วม ซึ่งจะช่วยให้มีโอกาสกู้ผ่านได้ง่ายขึ้น

ในการซื้อรถมือสองส่วนใหญ่แล้วเงินดาวน์จะอยู่ที่ประมาณ 10% ของมูลค่ารถ แต่ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับการพิจารณาของไฟแนนซ์ร่วมด้วย เพราะหากทางไฟแนนซ์พิจารณาแล้วว่าเป็นรถอายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป หรือผู้ซื้อมีความเสี่ยงสูง ก็อาจตั้งวงเงินดาวน์ให้สูงขึ้นเพื่อลดค่างวดและดอกเบี้ยในแต่ละเดือนลง เพื่อให้ผู้ซื้อผ่อนชำระหมดเร็วขึ้น

อย่างไรก็ดี ก่อนจะซื้อรถควรมีเงินเก็บเพื่อไว้ดาวน์รถ และมีการวางแผนการใช้จ่ายเพื่อลดภาระในการจ่ายค่างวดต่อเดือนให้น้อยลงด้วย ไม่ใช่ทำให้การผ่อนเป็นภาระที่หนักอึ้งและต้องขายรถทิ้ง

 

 

ที่มา โตโยต้า ลีสซิ่ง, กรุงศรี ออโต้

เครดิต www.autospinn.com