The Little Car Company บริษัทผลิตรถยนต์คันจิ๋ว เปิดโปรเจ็คท์ Aston Martin DB5 Junior รุ่นพิเศษ ภาคนี้จะได้เห็นการกลับมาของ Aston Martin DB5 ที่เป็นไอคอนของหนังสายลับบอนด์ โดย The Little Car Company ได้สร้างไอเท็มสำหรับนักสะสมที่มีอุปกรณ์ครบครัน ซึ่งเป็นรุ่นดั้งเดิม ในขนาด 2 ใน 3 ซึ่งมาพร้อมกับระบบส่งกำลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ผลิตแค่ 125 คัน ราคา 90,000 ปอนด์ หรือราว 4 ล้านบาท

Aston Martin DB5 Junior

No Time To Die Special Edition ได้รับการออกแบบให้เป็นรถเปิดประทุน โดยเป็นที่นั่งสำหรับผู้ใหญ่และเด็กแบบนั่งคู่กัน มาพร้อมเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งได้ระยะทางไกลถึง 80 ไมล์ และยังมีไอเท็มสำหรับสายลับที่ซ่อนอยู่ในรถอีกด้วย

ปืนกลที่ซ่อนอยู่

เมื่อพบว่าขับรถเข้าไปในที่แคบและไม่สามารถหาทางออกได้ จึงจำเป็นต้องเคลียร์ทางข้างหน้า ต้องมีตัวช่วยบางอย่าง ย้อนกลับไปในปี 1964 DB5 ของ Bond ถูกติดตั้งปืนกลคู่ไว้ที่ไฟหน้าเพื่อสู้กับผู้ร้าย แต่เวลาเปลี่ยนไป ต่างฝ่ายต่างอัพเกรดอาวุธมาสู้กัน ดังนั้นสำหรับ No Time To Die ภาคใหม่สนุกกว่าเดิมแน่นอน

เปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนแบบดิจิตอล

ย้อนกลับไปในยุคปี 60 Aston Martin DB5 ของ Bond ใช้การเปลี่ยนชุดป้ายทะเบียนแบบหมุน แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นแบบ LCD ดิจิตอล และได้รับการย่อให้เป็นขนาด 66% สำหรับ DB5 Junior ด้วยการใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เดียวกันกับรถในภาพยนตร์จริง หน้าจอเหล่านี้สามารถปรับแต่งให้ลูกค้าแสดงข้อความ วิดีโอ หรือป้ายทะเบียนรถได้ ถือว่าดึงความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

วิชาพลางตัว

เหมือนกับรถยนต์ออริจินัล DB5 Junior ภาพยนตร์ No Time To Die สามารถผลิตม่านควันออกทาง ‘ท่อไอเสีย’ ด้านหลัง เพื่อช่วยให้การหลบหนีได้สำเร็จ

โหมดลื่นไถล 

ตามที่เห็นในตัวอย่าง No Time To Die  ‘โหมดลื่นไถล’ จะสร้างความสนุกให้มากขึ้นในการขับ ซึ่งเป็นโหมดที่ทำให้รถสามารถลื่นไถลได้ สามารถสร้าความสับสนให้กับศัตรู และหนีรอดออกมาได้อย่างสบาย

ช่องลับที่ซ่อนของ

ช่องลับที่ซ่อนของภายในรถซึ่งที่เรารู้ ๆ กันอยู่ เจ้าของรถอย่างบอนด์ที่ใช้รถคันนี้มาตลอด ก็ไม่อยากที่จะรู้จุดได้ไม่ยาก ช่องลับจะทำงานผ่านแผงสวิตช์ ที่ซ่อนอยู่ในขอบประตูด้านผู้โดยสาร เพื่อเปิดใช้งาน เป็นฝีมือการออกแบบของ Q ซึ่งใกล้เคียงกับที่ใช้ในรถภาพยนตร์จริง

หล่อและมีเสน่ห์อย่างเหลือล้น สำหรับรุ่น DB5 Junior: No Time To Die ที่แสดงถึงฝีมืออันยอดเยี่ยม โดยรถยนต์แต่ละคันถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันในสหราชอาณาจักร เช่นเดียวกับ DB5 รุ่นดั้งเดิม

 

 

เครดิต www.autospinn.com