หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่าการเปิดไฟฉุกเฉินมีข้อควรระวังมากมาย เช่น ห้ามเปิดในขณะฝนตกหนัก, ห้ามเปิดในขณะข้ามแยก หรือกระทั่งการเปิดไฟฉุกเฉินขณะจอดรถในที่ห้ามจอด ก็ผิดกฎหมายห้ามจอดรถอยู่ดี แล้วแบบนี้ไฟฉุกเฉินควรเปิดใช้ตอนไหนจึงจะถูกต้อง? ไปดูกันครับ

เมื่อรถจอดเสียอยู่กับที่

     กรณีรถจอดเสียอยู่กับที่ไม่สามารถขยับไปไหนได้ หรือประสบอุบัติเหตุรถชนอยู่ระหว่างการรอบริษัทประกันภัย ควรเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นมองเห็นแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้

เมื่อต้องเบรกกะทันหัน

     กรณีขับขี่มาด้วยความเร็วสูงแล้วพบว่าข้างหน้ามีสิ่งกีดขวางหรืออุบัติเหตุ จำเป็นต้องลดความเร็วลงอย่างรวดเร็ว ควรเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่ที่อยู่ด้านหลังใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และเมื่อรถคันหลังชะลอความเร็วลงจนปลอดภัยแล้ว ควรปิดไฟฉุกเฉินทันที

     นอกเหนือจากสถานการณ์ทั้งสองที่กล่าวมาข้างต้นนี้ การเปิดไฟฉุกเฉินอาจเป็นอันตรายต่อผู้ร่วมทางได้ เช่น ขณะขับผ่านทางแยก เพราะรถที่วิ่งมาทางด้านข้างจะเห็นไฟกระพริบเพียงฝั่งใดฝั่งหนึ่งเท่านั้น ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าคุณกำลังจะเลี้ยวรถ จนอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ หรือกรณีขับรถขณะฝนตกหนักหรือหมอกลงจัด การเปิดไฟหน้าหรือไฟตัดหมอกร่วมด้วยก็เพียงพอแล้ว เพราะสัญญาณไฟฉุกเฉินอาจทำให้สายตาของผู้ร่วมทางพร่ามัว เป็นที่น่ารำคาญได้

     อย่าลืมว่าการเปิดใช่ไฟฉุกเฉินอย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ไม่ใช่บั่นทอนความปลอดภัยให้ลดลงครับ

 

 

ข้อมูล :สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก

เครดิต www.sanook.com