ไส้กรองอากาศมีหน้าที่ในการดักจับฝุ่น และสิ่งสกปรก แต่ทราบหรือไม่ว่า ไส้กรองอากาศที่ขายอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน มีกี่ประเภท และแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร

ในบทความนี้ออโต้สปินน์จะพาทุกท่านไปหาคำตอบกันครับ

ไส้กรองอากาศรถยนต์มีกี่ประเภท ?

ไส้กรองอากาศแบบกระดาษ

เป็นไส้กรองแบบมาตรฐานที่นิยมใช้กันมากที่สุด ทำมาจากการดาษชุบน้ำมัน มีคุณสมบัติในการดักจับฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกได้ดี ข้อดีคือราคาถูกกว่ากรองอากาศประเภทอื่น ๆ ข้อเสียคือ เมื่อสกปรกแล้วต้องทิ้งอย่างเดียว ไม่สามารถนำไปล้างได้

ไส้กรองอากาศแบบผ้า

เป็นไส้กรองอากาศที่สามารถดักจับสิ่งสกปรกในอากาศได้ดีพอประมาณ กรองอากาศประเภทนี้จะมีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นได้ใกล้เคียงกับแบบกระดาษ นิยมใช้กับรถแต่งซิ่ง เพราะอากาศสามารถไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้มากกว่าไส้กรองแบบกระดาษ ข้อดีคือ อากาศไหลเข้าได้มากกว่า สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้หลายครั้ง ข้อเสียคือมีราคาแพงกว่าเมื่อเทียบกับไส้กรองแบบกระดาษ

ไส้กรองอากาศแบบสแตนเลส

เป็นไส้กรองที่นิยมใช้ในรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูง หรือรถที่มีการปรับแต่งโมดิฟายเครื่องยนต์ เนื่องจากอากาศสามารถไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้มากที่สุด (เมื่อเทียบกับไส้กรองแบบกระดาษและผ้า) แต่ก็ต้องแลกมาด้วยฝุ่นและสิ่งสกปรกที่สามารถเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้มากกว่าไส้กรองแบบอื่น ๆ และมีราคาจำหน่ายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไส้กรองแบบกระดาษและผ้า

ไส้กรองอากาศ ใช้ได้นานแค่ไหน ?

ส่วนใหญ่ในคู่มือรถยนต์จะระบุไว้ว่า ควรถอดไส้กรองอากาศออกมาเป่าทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร และควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร แต่หากเราใช้รถในสถานที่ ที่มีฝุ่นเยอะ เช่น ขับลุยดินบ่อย ๆ หรือใช้รถในบริเวณที่กำลังก่อสร้างถนน ก็ควรหมั่นถอดออกมาเป่าบ่อย ๆ หรือตามความเหมาะสม หากเราละเลยไม่หมั่นตรวจเช็ค เศษฝุ่นเหล่านี้ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

จนเต็มพื้นที่ของตัวไส้กรองอากาศ ทำให้ไส้กรองอากาศไม่สามารถดักจับฝุ่นได้หมด เป็นเหตุให้เศษฝุ่นอาจจะเล็ดลอดเข้าไปอุดตันที่ลิ้นปีกผีเสื้อ ส่งผลให้เครื่องยนต์เดินไม่นิ่ง และเศษฝุ่นยังทำให้ไส้กรองอากาศตัน ขวางทางอากาศ ทำให้อากาศไหลผ่านได้ไม่สะดวก

ทำให้เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ เช่นเครื่องยนต์สั่น กำลังเครื่องยนต์ตก สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ถ้าเราหมั่นตรวจสอบและรีบแก้ไข ปัญหาต่าง ๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น

 

 

เครดิต www.autospinn.com