หน้าฝนมาแล้ว ภาพที่ลอยมานอกจากรถติด เดินทางลำบากแล้ว หากรถยนต์ที่ใช้มีสภาพไม่สมบูรณ์ ก็อาจเพิ่มความยุ่งยากในการเดินทางมากขึ้นไปอีก เช็ครถรับหน้าฝน ถ้าไม่อยากเสียเงินหนัก

เช็ครถรับหน้าฝน ถ้าไม่อยากเสียเงินหนัก

ถ้าไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุช่วงหน้าฝน ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง และตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมใช้อยู่เสมอ มีอะไรบ้างที่ควรตรวจสอบ มาดูกัน

เช็คไดสตาร์ท

ให้บิดกุญแจสตาร์ทรถ หากระบบไดสตาร์ททำงานช้าลง เป็นเป็นไปได้ว่าแบตเตอรี่รถยนต์อาจเสื่อมสภาพ หรือในกรณีที่แบตยังใหม่ ให้แก้ไขด้วยการถอดไดสตาร์ทออกมาทำความสะอาด และเปลี่ยนแปลงถ่านข้างใน

เช็คระบบเบรก

เมื่อเหยียบเบรกแล้ว เกิดรถไถลไปด้านหน้าหรือสะบัดไปทางซ้าย ขวา ต้องรีบทำการตรวจเช็ดโดยด่วน

เช็คยางรถยนต์

หากใช้ยางรถยนต์เกิน 3 ปีขึ้นไป อาจเกิดการเสื่อมสภาพ ยางขาดความยืดหยุ่นในการเกาะถนน ดังนั้นเวลาเบรกกะทันหัน หรือเบรกแรงๆ จะทำให้เกิดการลื่นไถล ควรตรวจเช็คดอกยางว่าบางเกินกว่า 2.5 มม. หรือไม่ เพื่อจะได้สามารถขับรถในพื้นที่ที่มีน้ำขังได้อย่างปลอดภัย

เช็คระบบที่ปัดน้ำฝน

ให้เช็คว่ายางของที่ปัดน้ำฝนมีสภาพการใช้งานที่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งหากปัดแล้วไม่เรียบและเป็นคลื่น รวมถึงมีเสียงดัง ให้เปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนใหม่

เช็คถังน้ำมัน

ให้ตรวจเช็คว่าน้ำมันเครื่อง หรือ น้ำมันเกียร์ มีน้ำฝนเข้าไปผสมหรือไม่ ซึ่งหากมีน้ำเข้าในบริเวณนี้ มีส่วนทำให้การทำงานของเครื่องยนต์ผิดพลาด

เช็คยางขอบประตู

ป้องกันการไหลซึมของน้ำฝนเข้ามาภายในรถ ควรตรวจเช็คให้ดีว่าขอบยางรถยนต์เสื่อมสภาพแล้วหรือไม่ หากเสื่อมสภาพ แนะนำให้เปลี่ยน

เช็คสัญญาณไฟ

ให้เช็คสัญญาณไฟจราจร ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้ารถ ไฟท้าย ไฟเลี้ยว รวมถึงไฟหรี่ ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ และต้องมีแสงสว่างมากเพียงพอ

เช็คที่กรองอากาศ

แนะนำให้ทำการตรวจเช็คระบบกรองอากาศ ว่ามีสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่

หากจำเป็นต้องใช้รถใช้ถนนช่วงหน้าฝน ให้เตรียมความพร้อมของรถยนต์ เพราะนอกจากจะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนหนึ่งแล้ว จะช่วยให้รถไม่เสียหายหนักเพราะหน้าฝนอีกด้วย

 

 

ที่มา TQM

เครดิต www.autospinn.com