การที่เครื่องยนต์เสื่อมสภาพ เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งอายุการใช้งาน การเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่ไม่ได้คุณภาพ หรือแม้แต่พฤติกรรมการขับขี่แบบผิด ๆ ในบทความนี้ออโต้สปินน์มีเคล็ดลับในการดูแลเครื่องยนต์ ให้ใช้งานได้ยาวนานมาฝากทุกท่านครับ

เกือบทุกครั้งที่เครื่องยนต์พัง หลายท่านมักโทษผู้ผลิต ว่าอาจจะใช้วัสดุที่ไม่ได้คุณภาพ แต่บางครั้งก็ลืมไปว่าอาจเป็นเพราะตัวเราที่ใช้งานผิดวิธีด้วยเช่นกัน หากไม่อยากให้รถยนต์ที่คุณรักต้องซ่อมบ่อย ลำดับแรกต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ก่อนเลยครับ ว่าควรทำ และไม่ควรทำสิ่งใดบ้าง

ไม่ขับรถลากรอบ

การขับลากรอบ หรือใช้รอบเครื่องยนต์สูงบ่อย ๆ จะส่งผลให้ลูกสูบ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในทำงานหนักขึ้น โดยปกติแล้ว ทันทีที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนภายในจะเคลื่อนที่และเสียดสีอยู่ตลอดเวลา โดยจะมีหม้อน้ำและระบบน้ำหล่อเย็นเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อน แต่ในกรณีที่เราขับลากรอบ หรือใช้รอบเครื่องยนต์สูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ จนทำให้ระบบหล่อเย็นระบายความร้อนไม่ทัน ส่งผลให้เครื่องยนต์สึกหรอไวขึ้น หรืออาจถึงขั้นโอเวอร์ฮีท หากใครที่ชอบขับรถลากรอบบ่อย ๆ รีบเปลี่ยนพฤติกรรมโดยด่วนครับ

ไม่ขับออกตัวกระชาก

การขับออกตัวกระชาก นอกจากจะส่งผลให้เครื่องยนต์สึกหรอไวแล้ว ยังทำให้ชิ้นส่วนอื่น ๆ สึกหรอไวอีกด้วยครับ เช่น ระบบเกียร์ ยางแท่นเครื่อง ลูกหมาก ยางล้อรถ และยังเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วยครับ

หลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรวอร์มเครื่องอย่างน้อย 3 นาที

การจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน หรือจอดข้ามวัน จะทำให้น้ำมันเครื่องที่มีสถานะเป็นของเหลว ไหลมารวมกันอยู่ที่ก้นอ่าง และเมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์ จะมีกลไกอยู่หนึ่งชิ้นที่ชื่อว่า “ปั๊มน้ำมันเครื่อง” ทำหน้าที่ดูดน้ำมันเครื่องจากก้นอ่างเพื่อไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายใน การวอร์มเครื่องอย่างน้อย 3 นาทีหลังจากสตาร์ทเครื่อง จะช่วยให้น้ำมันเครื่องถูกดูดขึ้นไปเคลือบหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในจนทั่ว

แต่ถ้าท่านใดเร่งรีบ ไม่สะดวกที่จะจอดรถวอร์มเครื่อง ก็ยังมีทางเลือกอีก 2 วิธีครับ

  • วิธีที่หนึ่ง ช่วงแรกของการออกตัว หรือระยะทาง 3 กิโลเมตรแรก ให้ขับเรื่อย ๆ ห้ามซิ่ง โดยใช้รอบเครื่องยนต์ให้ต่ำที่สุด เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นการวอร์มเครื่องยนต์ไปในตัวครับ
  • วิธีที่สอง คือการเลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณสมบัติพิเศษ ที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ฟิลม์น้ำมันยึดเกาะแน่นกับชิ้นส่วน แม้เราจะจอดข้ามวัน แต่ก็สามารถสตาร์ทรถและขับออกไปได้เลยโดยที่ไม่ต้องรออุ่นเครื่อง

ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะ

น้ำมันเครื่องถือเป็นหัวใจหลักของระบบเครื่องยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะมีหน้าที่ในการหล่อลื่น ลดแรงเสียดสี ลดความร้อน และชะล้างคราบเขม่า โดยน้ำมันเครื่องที่ผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน ประสิทธิภาพในการปกป้องจะเริ่มลดน้อยลง การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อย ๆ หรือตามระยะที่กำหนด (ไม่ควรเกิน 10,000 กม.) จึงส่งผลดีต่อชิ้นส่วนต่าง ๆ ในเครื่องยนต์ แต่ทั้งนี้เราก็ต้องเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้ถูกเบอร์ และเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพได้มาตรฐานด้วยนะครับ

โดยในปัจจุบัน น้ำมันเครื่องที่มีจำหน่ายในท้องตลาดจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ

  • น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% (Fully Synthetic) มีคุณสมบัติช่วยเสริมสมรรถนะเครื่องยนต์ ทนความร้อนได้ดี เหมาะกับรถที่ใช้รอบเครื่องยนต์สูงบ่อย ๆ ใช้ได้กับรถแข่ง และรถทั่ว ๆ ไป
  • น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) คุณสมบัติจะรองมาจากน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ ใช้ได้กับรถทั่ว ๆ ไป
  • น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา (Mineral) เป็นน้ำมันเครื่องที่มีราคาถูกที่สุด ผลิตจากน้ำมันดิบ ใช้ได้กับรถทั่ว ๆ ไป แต่ไม่เหมาะกับรถที่ต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูง

 

 

เครดิต www.autospinn.com