เทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยมีการพัฒนาอยู่ทุกวัน แต่นั่นก็รวมถึงเทคนิคในการโจรกรรมรถด้วย ซึ่งบางวิธีที่คนร้ายใช้ก็เป็นวิธีที่เราคาดไม่ถึง วันนี้เราได้รวบรวมเทคนิคที่ใช้ในการโจรกรรมรถ มาไว้ที่นี่แล้ว

เทคนิคการโจรกรรมแบบต่างๆ

1. กุญแจปลอม

คนร้ายอาจฉวยโอกาสปั๊มกุญแจตอนที่เราเอารถไปซ่อม ล้าง หรือทำทีติดต่อซื้อรถทางอินเทอร์เน็ตแล้วขอมาดูรถ เมื่อได้โอกาสก็ปั๊มกุญแจ แล้วมาขโมยทีหลังหากรู้ที่จอดประจำ หรือที่อยู่บ้าน

2. เหล็กแข็งแทงกุญแจ

คนร้ายจะใช้เหล็กแข็งแทงเข้าไปในรูกุญแจแล้วบิดเพื่อให้ชุดฟันเฟืองเสียหาย จนสามารถปลดล็อคได้

3. ลวดแข็งเกี่ยวตัวล็อคประตู

คนร้ายจะดัดลวดแข็งเป็นตัวยู งัดยางรีดน้ำประตูออก แล้วใช้ลวดแยงเข้าไปเพื่อปลดล็อค วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ช่างที่เราเรียกมาปลดล็อคประตูใช้เหมือนกัน

4. งัดประตูหูช้าง

สำหรับรถรุ่นเก่าๆ คนร้ายสามารถงัดประตูหูช้างนี้ให้ตัวล๊อกหักได้ แล้วเอื้อมมือมาเปิดตัวล็อคประตูได้อย่างง่ายดาย

5. น้ำกรด

คนร้ายจะใช้กระบอกฉีดยาดูดน้ำกรดเข้มข้นมา แล้วฉีดเข้าไปในรูกุญแจเพื่อทำลายชุดฟันเฟือง และสปริง และเมื่อเข้ามาในรถได้แล้ว ยังสามารถใช้น้ำกรดทำลายล็อคพวกมาลัย เกียร์ และคลัตช์ได้อีกด้วย

6. ทุบกระจกรถ

เป็นวิธีที่ง่ายมาก เพราะโจรแค่ใช้เหล็กแหลมกะเทาะกระจกให้แตก และเอื้อมเข้าไปเปิดล็อกด้านใน

7. ช็อตวงจรไฟฟ้า

คนร้ายสามารถต่อลัดวงจรไฟฟ้า เช่นวงจรไฟเลี้ยวในชุดรีโมต เมื่อวงจรช็อต ตัวล็อกก็จะเด้งออกทันที

8. จูนสัญญาณรีโมต

เป็นวิธีใหม่ที่คนร้ายจะใช้กัน โดยคนร้ายจะใช้เครื่องมือจับความถี่สัญญาณตอนเรากดรีโมตล็อคประตู แล้วก๊อปปี้ความถี่มาใช้เปิดประตูอีกที

9. หาสัญญาณจากกุญแจรถ สำหรับรถที่ใช้ระบบ Keyless และกดปุ่มสตาร์ท

คนร้ายจะใช้อุปกรณ์เพื่อดึงสัญญาณคำขอจากตัวรถ และส่งคำขอนั้นไปยังอุปกรณ์ชิ้นที่สองเพื่อที่จะนำไปใช้หาสัญญาณจากกุญแจรถที่อยู่ในบ้านแล้วดึงสัญญาณจริงมา จากนั้นก็ส่งสัญญาณจริงมายังอุปกรณ์ชิ้นแรก แล้วส่งสัญญาณต่อไปที่รถเพื่อทำการปลดล็อค

10. ยกรถ

เป็นอีกวิธีที่ง่ายเช่นกัน เพราะคนร้ายแค่มีรถยกก็สามารถยกรถไปได้ทั้งคัน แล้วค่อยทำการปลดล็อกทีหลัง

11. จี้ ปล้น

วิธีนี้คนร้ายมักหลอกล่อให้เจ้าของนำรถไปยังที่เปลี่ยวๆ เพื่อจี้ปล้นรถอย่างง่ายดาย

เมื่อเทคนิคของคนร้ายแพรวพราวขนาดนี้ เจ้าของรถเองก็ควรต้องหาตัวช่วยในการป้องกัน หรือทำให้การโจรกรรมยากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีทั้งอุปกรณ์ล็อกพวงมาลัย ล็อคเกียร์ และล็อกคลัตช์ หรืออาจจะใช้เทคโนโลยีมาช่วย ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมล็อกแบบไร้สาย ระบบป้องกันการสตาร์ทเครื่องยนต์ ที่จะตัดสัญญาณการสตาร์ททันทีหากโค้ดที่ส่งจากตัวแม่กับตัวลูกแตกต่างกัน ระบบส่งสัญญาณด้วยเสียงเมื่อมีการทุบกระจก เปิดประตูโดยไม่ใช้รีโมต หรือเทคโนโลยีอื่นๆ เช่นระบบติดตาม GPS ระบบปล่อยควันหมอกออกมาให้โจรตกใจ ระบบที่ส่งสัญญาณมายังโทรศัพท์มือถือเมื่อรถถูกขโมย เป็นต้น

     อย่างไรก็ตาม เราสามารถลดความเสี่ยงที่รถจะถูกโจรกรรมได้เช่นกัน โดยการจอดรถในที่ปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือกล้องวงจรปิดอยู่ ไม่จอดในที่เปลี่ยว ลับตาคน ตรวจสอบรถอีกครั้งหลังล็อกรถ เช็กระบบกันขโมยอย่างสม่ำเสมอ ไม่หลงเชื่อคนแปลกหน้า ไม่ทิ้งกุญแจไว้กับใครถ้าไม่จำเป็น อย่าให้กุญแจรถของคุณคลาดสายตาเมื่อต้องใช้บริการตามศูนย์ ร้านล้างรถ หรืออู่ และสุดท้ายทำประกันเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเหล่านี้

 

 

เครดิต www.sanook.com

 

แนะนำฝาสูบ ดีแม็ก 4JK1/ 4JJ1 ใหม่ GZL เป็นยังไงยังไง?