ช่วงนี้ฝนตกแทบทุกวัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องขับรถลุยสายฝน แต่จะขับอย่างไรให้ปลอดภัย บทความนี้มาดูกันครับ

ฤดูฝนไม่เพียงแต่ทำให้รถติด แต่ยังทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย เราคงไม่สามารถสั่งหรือควบคุมให้ฝนไม่ตกได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือต้องระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้ทุกชีวิตบนท้องถนนมีความปลอดภัย

ไม่ขับรถเร็ว ถือเป็นความปลอดภัยพื้นฐานที่รถทุกคันควรปฏิบัติ เพราะด้วยพื้นผิวถนนที่เปียก มีโอกาสทำให้รถเสียหลัก นอกจากนี้การขับรถเร็วอาจทำให้น้ำกระเด็นใส่ผู้อื่นจนเกิดความเดือดร้อน ถือเป็นโทษทางกฎหมายอีกด้วยครับ

ไม่ขับตีคู่รถคันใหญ่ เพราะอาจถูกคลื่นน้ำสาดใส่กระจกหน้ารถ ทำให้มองไม่เห็นทาง และหากถูกคลื่นน้ำสาดใส่กระจก ไม่ควรเบี่ยงหลบ จับพวงมาลัยให้มั่น บังคับรถให้อยู่ในเส้นทาง

เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า ให้มากกว่าปกติ ไม่ขับชิดท้ายรถคันหน้า เพื่อให้มีระยะเบรกได้ทันเวลา หากเกิดเหตุฉุกเฉิน

ให้สัญญาณไฟล่วงหน้า ไม่เปลี่ยนเลนกะทันหัน เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายได้

ไม่เหยียบเบรกกะทะหัน เพราะการที่พื้นถนนลื่น เมื่อเหยียบเบรกอย่างแรงจะทำให้รถเสียการทรงตัว ลื่นไถลออกนอกเส้นทางได้ โดยเฉพาะรถที่ไม่มีระบบ ABS

ห้ามเปิดไฟฉุกเฉิน โดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้รถคันอื่นเกิดความสับสน หรือตาพร่ามัว และหากรถหลายคันเปิดไฟฉุกเฉินพร้อมกัน จะยิ่งทำให้กะระยะได้ยาก หากฝนตกให้ใช้วิธีเปิดไฟหน้ารถตลอดเวลาแทน

เพิ่มความระมัดระวัง สังเกตให้มากขึ้น มองถนน เส้นทาง สภาพแวดล้อมต่างๆ และที่สำคัญควรลดความเร็ว เมื่อต้องขับผ่านเส้นทางที่มีแอ่งน้ำ ป้องกันรถเหินน้ำและลื่นไถล

ฤดูฝน เป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด และเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ๆ หากผู้ขับขี่ไม่ระมัดระวัง ดังนั้น ขับช้า ๆ ไม่รีบร้อน ถ้าฝนตกหนักก็จอดรอให้ฝนหยุดก่อน หากทุกท่านระมัดระวัง ยังไงก็ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแน่นอน

 

เครดิต www.autospinn.com

 

ก้านสูบ 1GD 2GD REVO เป็นยังไง?