Honda Civic TYPE R 2023 (FL5) ใหม่ แฮทช์แบ็กตัวแรงขุมพลัง 2.0 ลิตรเทอร์โบ กำลังสูงสุด 330 แรงม้า (PS) เตรียมเผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน Motor Expo 2022 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2565 นี้

     ฮอนด้า ประเทศไทย ประกาศเตรียมจัดแสดง “Honda Civic TYPE R” ใหม่ ครั้งแรกในไทยที่งาน Motor Expo 2022 ช่วงปลายปีนี้ ตั้งเป้าท้าชนคู่แข่งตรงอย่าง Toyota GR Corolla ที่จะถูกเปิดตัวในงานเดียวกัน แต่ปัจจุบันทางฮอนด้ายังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดและกำหนดการวางจำหน่ายออกมา

     ขณะเดียวกัน ฮอนด้ายังเตรียมนำเอา Honda SUV e:Prototype ซึ่งเป็นต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นบนโครงสร้างตัวถังเดียวกับ HR-V / Vezel โฉมปัจจุบันมาจัดแสดงในงานดังกล่าวอีกหนึ่งรุ่น โดยโมเดลดังกล่าวถูกนำมาวางจำหน่ายจริงในชื่อ e:NP1 และ e:NS1 ที่ประเทศจีน

     All-new Honda Civic TYPE R ใหม่ ถูกติดตั้งขุมพลังเบนซิน 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ รหัส K20C1 ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 330 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร (310 ปอนด์-ฟุต) ที่ 2,600 – 4,000 รอบต่อนาที เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า 7 แรงม้า (HP) แรงบิดเพิ่มขึ้น 20 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ที่มีการเปลี่ยนฟลายวีลให้มีน้ำหนักเบาลง พร้อมทั้งปรับปรุงการทำงานของระบบ Rev-match เพื่อให้การลดเกียร์ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

     แพล็ตฟอร์มของ Honda Civic TYPE R ใหม่ มีการเพิ่มความยาวฐานล้อขึ้น 1.4 นิ้ว ส่งผลให้กลายเป็นรถที่มีความยาวฐานล้อมากที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน พร้อมทั้งขยายระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้าขึ้นอีก 1 นิ้ว และล้อคู่หลังอีก 0.75 นิ้ว ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ทางตรงให้ดียิ่งขึ้น

     ดีไซน์ภายนอกถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อให้สามารถสร้างดาวน์ฟอร์ซขณะใช้ความเร็วสูงได้มากขึ้น ตัวถังมีความยาวเพิ่มขึ้น 0.8 นิ้ว กว้างขึ้น 0.6 นิ้ว และเตี้ยลง 0.5 นิ้ว พร้อมล้ออัลลอยน้ำหนักเบาสีดำด้านขนาด 19 นิ้ว หุ้มด้วยยาง Michelin Pilot Sport 4S ที่มีหน้ากว้างเพิ่มขึ้น 20 มิลลิเมตร อีกทั้งยังออกแบบล้ออัลลอยให้มีลักษณะเป็น “Reverse rim” เพื่อให้หน้ายางสามารถสัมผัสกับพื้นถนนได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังใช้ระบบเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปแบบ Helical-type เพื่อถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ลงสู่พื้นถนนได้อย่างเต็มกำลัง

 

 

เครดิต www.sanook.com

 

ราวลิ้น/กระเดื่องวาล์ว Ford BT50 2.5 เป็นยังไงไปดูกัน