เดือนแห่งเทศกาลหยุดยาวนี้ หลายคนเตรียมขับรถเดินทางไกลท่องเที่ยวพักผ่อน เพื่อความปลอดภัยคลายกังวลกับปัญหารถเสียระหว่างทาง วันนี้เรามาแชร์วิธีตรวจเช็กรถก่อนออกเดินทางมาฝากเพื่อน ๆ ด้วย
ตรวจดูความสมบูรณ์ของแบตเตอรี่ และเช็ดทำความสะอาดป้องกันคราบสกปรกติดที่ขั้วแบต ตรวจเช็กความแน่นของขั้วแบตและฉนวนหุ้มสาย เช็กระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่กำหนด หากละเลยไม่เติมน้ำกลั่นก็จะทำให้แบตเตอรี่เสียหายและรถสตาร์ทไม่ติด
เช็กล้อและยางรถยนต์
ตรวจเช็กแรงดันลมยางทั้ง 4 ล้อ รวมทั้งยางอะไหล่ ต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่รั่วซึม ไม่มีรอยแตกลายงา มีดอกยางเพียงพอ
เช็กช่วงล่าง
ตรวจเช็กความตรงของพวงมาลัย พวกชิ้นส่วนต่าง ๆ ของช่วงล่าง เช่นลูกหมาก วิ่งแล้วมีเสียงดังกุกกักหรือไม่ และเช็กคราบน้ำมัน รอยรั่วบริเวณแกนโช้ค
เช็กน้ำมันเบรก และระบบเบรก
ตรวจเช็กระบบเบรกโดยทดลองเหยียบเบรกซ้ำ ๆ สังเกตผ้าเบรกและเสียงเบรกว่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ปกติหรือไม่ และเช็กน้ำมันเบรกให้อยู่ในระดับที่กำหนด หากพบว่าน้ำมันพร่องหรือเบรกมีเสียงให้รีบนำรถไปตรวจเช็กโดยช่างผู้ชำนาญเพื่อหาสาเหตุและแก้ไข
เช็กระบบไฟ
ตรวจเช็กไฟหน้าสูง-ต่ำ ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟตัดหมอก ไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉิน ต้องใช้งานได้ครบทุกจุด แสงสว่างคมชัด ไม่มัว ยิ่งหากเดินทางในช่วงกลางคืนระบบไฟส่องสว่างถือว่าจำเป็นมากในการเดินทาง
เช็กน้ำมันเครื่อง
ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง จะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม สามารถตรวจเช็กได้จากก้านวัดน้ำมันเครื่อง อย่าปล่อยให้น้ำมันเครื่องแห้งเครื่องยนต์อาจพังได้ และก่อนออกเดินทางไกลควรมีน้ำมันเครื่องสำรองติดรถไว้อย่างน้อย 1 ลิตร เผื่อได้ใช้ในยามฉุกเฉิน
เช็กหม้อน้ำ ท่อยาง และ ระบบหล่อเย็น
แนะนำให้ตรวจเช็กน้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำในตอนที่เครื่องยนต์ไม่มีความร้อนจะดีที่สุด โดยสังเกตฝาหม้อน้ำหรือถังพักน้ำสำรอง ดูสีและสภาพว่ายังดูดีอยู่หรือไม่ หากน้ำลดหายไป ควรเติมโดยใช้น้ำยาหล่อเย็น จนถึงขีด Max และถ้าพบว่าสภาพน้ำมีสีคล้ายสนิม ควรเปลี่ยนถ่ายทันที
เครื่องมือที่ควรมีติดรถ
อย่าลืมเตรียมเครื่องมือติดประจำรถไว้ด้วย เช่น ล้อ-ยางอะไหล่ แม่แรง ชุดเครื่องมือในการถอดล้อ ที่เติมลมฉุกเฉิน สายพ่วงแบต สายลากรถ ไฟฉาย ฯลฯ เครื่องมือเหล่านี้ควรมีติดรถเอาไว้ เพื่อความอุ่นใจยามเดินทาง
ข้อมูลจาก : Toyota Thailand
เครดิต www.autospinn.com
เทอร์โบ 4JA1 ของแท้ราคาเป็นหมื่น ของGZLไม่แพง!!!