แอร์รถยนต์ไม่เย็น มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง
สิ่งจำเป็นในการใช้งานรถยนต์ทุกครั้ง ที่เราแทบจะขาดกันไม่ได้แล้วก็คืออุปกรณ์ปรับอากาศ หรือแอร์นั่นเอง ด้วยสภาพอากาศบ้านเราขนาดนี้ หากวันไหนเกิดแอร์ใช้ไม่ได้ รับรองว่ามีหัวร้อนกันเป็นทิวแถว แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่แอร์มันก็มีโอกาสที่จะไม่ทำงานตามปกติ และมาได้จากหลากหลายสาเหตุ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกัน
ปุ่ม AC ปิดอยู่
ปัญหาเส้นผมบังภูเขา ที่ทำเอาหลายคนหัวร้อนไปตาม ๆ กัน เพราะอยู่ดี ๆ แอร์ในรถก็ไม่เย็นซะอย่างนั้น สิ่งแรกที่ควรดูก่อนเลยก็คือ สวิตช์ปุ่ม A/C (Air Conditioning) ว่ามันยังแสดงการทำงานตามปกติหรือเปล่า ส่วนใหญ่ถ้ามันทำงาน จะมีไฟติดแสดงผลเอาไว้อยู่ แต่ปุ่มนี้มันไม่ได้มีทุกคัน ถ้าคันไหนมีแล้วแอร์ไม่เย็น ให้ลองตรวจสอบปุ่มนี้ดูก่อนเลยครับ เราอาจจะเผลอไปกดมันโดยไม่รู้ตัวก็ได้
ตั้งอุณหภูมิสูงไป
ในที่นี้ ส่วนใหญ่ปัญหาจะมาจากในรุ่นที่ยังใช้การบิดปรับตัวระดับอุณหภูมิแบหมุนอยู่ เพราะแบบนี้จะไม่มีระบุอุณหภูมิเป็นตัวเลขอย่างชัดเจน โดยส่วนใหญ่แล้ว ก็จะมีการตั้งเอาไว้ที่ประมาณครึ่งหนึ่ง แต่บางทีถ้าเรารู้สึกหนาว ก็จะบิดให้มันน้อยลง หรือเพิ่มขึ้นเมื่อรู้สึกร้อน ดังนั้นสิ่งที่ควรตรวจสอบต่อมาเมื่อเรารู้สึกไม่เย็นย ก็คือเจ้าปุ่มนี้ล่ะครับ เพราะอาจจะมีการบิดตั้งให้มันน้อยลงโดยเราไม่ได้ตั้งใจก็ได้ครับ
แอร์ตัน
หลักการทำงานของแอร์ในรถยนต์ ก็คือการใช้พัดลมดูดเอาอากาศที่อยู่ภายในห้องโดยสาร ดึงเอามาเป่าผ่านแผงคอยล์เย็นที่มีน้ำยาแอร์วิ่งผ่าน ซึ่งแผงนี้จะมีความเย็นจัด เมื่อลมเป่าผ่านแล้ว ก็จะกลายเป็นอากาศเย็นเข้าไปที่ห้องโดยสารอีกครั้ง ซึ่งลมที่ดูดเข้ามานั้น ก็อาจจะมีฝุ่นละอองต่าง ๆ เข้ามาพร้อมด้วยกันได้เช่นกัน เจ้าฝุ่นละอองเหล่านี้ก็จะถูกเป่าแล้วไปติดฝังอยู่ที่แผงคอยล์เย็น ปกติแล้ว เราควรจะต้องล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้สิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในแผงคอยล์เย็น ได้ถูกทำความสะอาดออกไป แต่ถ้าไม่ทำ เมื่อฝุ่นจับกันเป็นแผงหนา จนทำให้ลมไม่สามารถผ่านแผงคอยล์เย็นได้อย่างสะดวก ก็จะทำให้ลมที่เป่าออกมานั้นมีแรงลมน้อย ส่งผลให้เรารู้สึกไม่เย็นเมื่ออยู่ในรถได้ครับ
ระบบน้ำยาแอร์รั่ว
การทำงานของระบบแอร์รถยนต์ นั้น เป็นระบบปิด อาศัยการวิ่งไปตามท่อของน้ำยาแอร์เพื่อทำให้อากาศภายในห้องโดยสารเย็นได้ แต่เมื่อไหร่ที่ระบบมีการรั่ว จนทำให้น้ำยาแอร์นั้นระเหยออกไปสู่ภายนอกได้ เมื่อน้ำยาแอร์ไม่มี ก็ไม่มีสารมาช่วยทำความเย็นได้ แอร์ในรถถึงไม่เย็นให้เรา โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีการรั่วอยู่ 2 แบบคือ รั่วไปในครั้งเดียว โดยอาจจะมีการรั่วผ่านทางท่อน้ำยาแอร์ใต้ฝากระโปรง ส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นได้ด้วยตาตัวเอง ที่เหมือนมีควันขาวกระจายออกมาใต้ฝากระโปรงคล้ายไฟไหม้ แต่กระจายหายไปในทันที นั่นคืออาการของน้ำยาแอร์รั่ว อันนี้แก้ไม่ยาก เพราะเราจะเห็นเลยว่ารั่วตรงไหน เปลี่ยนตรงจุดนั้นแล้วอัดน้ำยาแอร์เข้าไปใหม่ ก็ใช้งานได้แล้ว แต่ถ้าเป็นการรั่วผ่านตามด หรือรอยรั่วเล็ก ๆ แบบมองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น อันนี้จะตรวจสอบยากกว่าแบบแรกครับ อาการก็คือมันจะเย็นน้อยลงทุกวัน ๆ จนสุดท้ายแล้วจะไม่เย็นเลย อาการนี้ให้เราสังเกตว่า ถ้าวันไหนเราเปิดแอร์แล้วเราได้ยินเสียงฉีดน้ำยาแอร์ดังในห้องโดยสารแถวหลังคอนโซล ประมาณ “ฟี๊ด ๆ” เริ่มจากเบา ก่อนจะค่อยดังมากขึ้นในแต่ละวัน แสดงว่าน้ำยาเริ่มทยอยรั่วออกแล้วครับ ต้องให้ช่างตรวจสอบให้ว่ารั่วจุดไหน (ส่วนใหญ่ที่พบคือคอยล์เย็นในห้องโดยสาร หรือคอยล์ร้อนที่หน้าเครื่องรั่ว) เปลี่ยนอุปกรณ์ตัวนั้นแล้วอัดน้ำยาแอร์เข้าไปใหม่ เป็นอันใช้งานได้เหมือนเดิม
สายพานแอร์หย่อน-ขาด
การทำงานของแอร์นั้น อาศัยกำลังของเครื่องยนต์ไปหมุนคอมเพรสเซอร์ที่ทำหน้าที่อัดน้ำยาแอร์เข้าไปที่ห้องโดยสาร เพื่อทำให้แอร์ปรับอากาศให้เย็นได้ แต่เมื่อไหร่ที่คอมเพรสเซอร์ไม่สามารถหมุนได้เต็มที่ หรือหมุนไม่ได้ มาจากสาเหตุหลักคือตัวสายพานแอร์หย่อนหรือขาด ถ้าสายพานแอร์หย่อน แอร์จะเย็นน้อย แต่ไม่เพียงพอทำให้เย็นเพียงพอได้ แต่ถ้าไม่เย็นเลย แสดงว่าสายพานขาด ต้องเปลี่ยนเป็นเส้นใหม่ถึงจะกลับมาเย็นตามปกติครับ
คอมเพรสเซอร์ล้า
คอมเพรสเซอร์คืออุปกรณ์หลักที่ทำให้แอร์ในรถเย็นได้ แต่มันก็มีอายุการใช้งานของมันอยู่ เมื่อไหร่ที่ผ่านการใช้งานไปเป็นเวลานาน ก็อาจจะมีอาการคอมเพรสเซอร์ล้าได้ อาการก็คือมันไม่สามารถฉีดน้ำยาแอร์เข้าไปวิ่งในระบบได้มากเพียงพอ จึงไม่สามารถสร้างความเย็นภายในตัวรถได้เพียงพอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ววิธีการแก้ไขก็คือ การเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ลูกใหม่ จะเป็นการเปลี่ยนแบบลูกใหม่ป้ายแดง, คอมบิวท์ (คอมเก่ามาซ่อมใหม่) หรือคอมมือ 2 ก็แล้วแต่งบประมาณของแต่ละคน แต่ก็มีช่างบางคนก็สามารถซ่อมให้ใช้งานได้ ถ้าเจอปัญหานี้ก็ลองปรึกษากับทางร้านซ่อมดูครับ
พัดลมแอร์หน้าเครื่องไม่ทำงาน
เมื่อน้ำยาแอร์วิ่งผ่านมาที่คอยล์เย็นแล้วถูกพัดลมเป่าผ่านไปแล้ว ตัวอุณหภูมิของน้ำยาจะสูงขึ้น ต้องผ่านกระบานการลดอุณหภูมิก่อนที่จะถูกอัดกลับเข้าไปใหม่ ด้วยการเอาไปวิ่งผ่านที่คอยล์ร้อนที่เป็นแผงคล้ายหม้อน้ำ ติดอยู่ในใต้กระโปรงหน้าแถวหน้ารถ เมื่อน้ำยาวิ่งผ่านคอยล์ร้อน จะมีพัดลมทำหน้าที่เป่าผ่านคอยล์ร้อนเพื่อให้อุณหภูมิของน้ำยาแอร์ลดลง เพื่อให้สามามรถนำกลับไปวนกระบวนการสร้างความเย็นได้ใหม่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พัดลมตัวนี้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ทำงาน น้ำยาแอร์ก็จะไม่สามารถลดอุณหภูมิลงได้ คอมเพรสเซอร์ก็ไม่สามารถทำให้น้ำยาแอร์เย็นได้มากพอเมื่ออัดกลับเข้าไปที่คอยล์เย็น ห้องโดยสารก็จะร้อนขึ้นทันที วิธีการเดียวที่แก้ไขได้คือ เปลี่ยนพัดลมตัวใหม่ครับ
จริง ๆ แล้วสาเหตุที่แอร์รถไม่เย็น ยังสามารถมีได้อีกหลายอย่าง เช่น ไดเออร์ตัน, วาล์วเสีย, สวิตช์ความเย็นเสีย, ฟิวส์คอมเพรสเซอร์ขาด เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้ว จะมาจากที่กล่าวมาเบื้องต้นมากกว่า ดังนั้นให้ลองตรวจสอบสาเหตุโดยเบื้องต้นก่อน ถ้าสาเหตุมาจากอุปกรณ์เสีย ก็ต้องเข้าอู่หรือศูนย์บริการให้ตรวจสอบและแก้ไขให้นะครับ
เครดิต www.autodeft.com