วัดระดับ น้ำมันเครื่อง ก่อนดับเครื่องหรือหลังดับเครื่อง แบบไหนดีกว่ากัน?

หลายคนยังคงสงสัยอยู่ว่าการวัดระดับ น้ำมันเครื่อง ต้องวัดก่อนหรือหลังดับเครื่อง แบบไหนดีกว่ากัน บางคนเชื่อว่าถ้าวัดน้ำมันเครื่องหลังดับเครื่องยนต์ไว้นานข้ามคืนหรือหลายชั่วโมง จะทำให้ น้ำมันเครื่อง ไหลกลับอ่างมากที่สุด แต่ถ้าหากวัดหลังดับเครื่องยนต์ใหม่ๆ จะได้เห็นค่าระดับต่ำกว่าปกติเล็กน้อย เพราะน้ำมันเครื่องยังไหลลงไม่ไหมด

ซึ่งข้อสรุปในคู่มือประจำรถ ไม่ว่าจะเป็นรถญี่ปุ่น-ยุโรป รถเก่า-รถใหม่ หรือรถเก๋ง-รถกระบะก็ตาม ล้วนระบุว่าเครื่องยนต์ทำงานจนถึงอุณหภูมิปกติแล้วดับเครื่อง หรือบางรุ่นระบุไว้ 2-5 นาที อย่างชัดเจน ซึ่งก็ไม่เคยเห็นคู่มือประจำรถรุ่นใดระบุให้วัดหลังจอดรถข้ามคืน หรือรอนานหลายชั่วโมง เพราะจะทำให้ช่างหรือผู้ใช้รถวัดระดับน้ำมันเครื่องลำบาก

ดังนั้น เมื่อไรที่อยากจะวัดระดับ น้ำมันเครื่อง สามารถวัดหลังจากเครื่องยนต์ทำงานปกติ โดยดับเครื่อง จอดรถบนพื้นที่ราบ ทิ้งไว้สักครู่ประมาณ 1-5 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงอ่างเสียก่อน โดยไม่ต้องรอข้ามคืน หลังจากนั้นก็ดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องขึ้นมา โดยใช้ผ้าที่สะอาดเช็ดน้ำมันเครื่องที่ติดออกมากับก้านวัดออกมา หลังจากนั้นนำก้านกลับเสียบเข้าไปที่เดิม จากนั้นดึงก้านวัดอีกครั้งเพื่อดูระดับของน้ำมันเครื่องว่าอยู่ระดับไหน ถ้าหากน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับ L (Low) นั่นแสดงว่าปริมาณของน้ำมันเครื่องอยู่ต่ำกว่าปกติ ถ้าอยู่ในระดับ F นั่นแสดงว่า พอดีหรือปกติ แต่ถ้าเกินระดับ F ขึ้นไป นั่นหมายความว่า ปริมาณน้ำมันเครื่องเกินระดับนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เราควรวัด น้ำมันเครื่อง ทุกๆ 1 หรือ 2 สัปดาห์ พ้อมสังเกตความผิดปกติ หากครบ 10,000 กิโลเมตร แล้วระดับของน้ำมันเครื่องยังไม่ต่ำกว่าขีดล่างถือว่าปกติดี แต่ถ้าต่ำกว่าขีดนั่นแสดงว่าเกิดอาการรั่วซึม และอาจจะทำให้เครื่องยนต์พังเร็วกว่าปกติ

เครดิต www.mthai.com