สิ่งที่ควรเเละไม่ควรทำ ตอนที่รถคุณโดนล็อคล้อ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สำหรับคนที่เคยโดน ล็อคล้อรถยนต์ จากการ จอดรถผิดกฏจราจร มาเเล้ว อาจจะมองเป็นเรื่องเล็กๆ แต่สำหรับคนที่เพิ่งเคยโดนครั้งแรก บางคนอาจเกิดอาการวิตกจริตทำอะไรไม่ถถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นแก้ไขสถานการณ์อย่างไร ไม่เป็นไรทำใจดีๆ เราจะมาเเนะนำขั้นตอนของเรื่องนี้ให้ทราบ ซึ่งก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก

หากคุณกลับมาที่รถหลังจากจอดทำธุระ แต่ดันจอดในที่ห้ามจอดพร้อมกับมีที่ ล็อคล้อรถยนต์ จากเจ้าหน้าที่ติดอยู่ที่ล้อรถเรียบร้อย สิ่งแรกคือดึงใบสั่งที่เจ้าหน้าที่เสียบไว้ที่หน้ารถออกมาดูรายละเอียดเอาคร่าวแค่ ดูข้อหา อัตราโทษปรับ เเละสถานีตำรวจในพื้นที่ที่กระทำความผิด โดนรายละเอียดเหล่านี้จะอยู่ที่ใบสั่งทั้งหมด อัตราโทษปรับฐานจอดรถในที่ห้ามจอดมีดังนี้

สำหรับพื้นที่ในเขตชานเมือง ล็อคล้อ ปรับขั้นต่ำ 500 บาท , พื้นที่ในเมือง ล็อคล้อ ใน ปรับขั้นต่ำ 700 บาท, จอดรถในที่ห้ามจอดปรับไม่เกิน 1,000 บาท
(ราคาจะขึ้นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ จากนั้นนำใบสั่งที่ได้ไปจ่ายค่าปรับที่สถานีตำรวจในพื้นที่เเละจ่ายค่าปรับ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมาปลดล็อคล้อให้กับรถคุณ

สำหรับคนที่หัวหมอไม่อยากจ่ายค่าปรับ ถอดล้อรถออกแล้วใส่ล้อใหม่เข้าไปเหมือนที่เคยมีข่าวหรือทำลายเครื่องล็อคล้อจนเกิดความเสียหาย บอกเลยว่านี่คือสิ่งที่ผิด หากกระทำแบบนี้จะถูกดำเนินคดีทางกฏหมายตาม พรบ. การจราจรทางบก มาตรา 59 ในข้อหา เคลื่อนย้ายรถที่เจ้าพนักงานจราจรได้ใช้เครื่องมือบังคับมิให้เคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาติ จะมีอัตราโทษจะคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เห็นแบบนี้เวลาเจอล็อคล้อ เเนะให้ยอมรับความผิดเเละเสียค่าปรับให้จบๆ ไป ดีกว่าฝืน

หรือหากใครที่โดนล็อคล้อรถเเล้ว มีความคิดว่า ไหนๆ ก็โดนล็อคล่อไปแล้ว ก็จอดรถมันทิ้งไว้แบบนีี้สักสองสามวันละกันจะได้คุ้มกับค่าปรับ บอกเลยว่าหากปล่อยรถทิ้งไว้นาน เจ้าหน้าที่จะไม่มาปลดล็อคล้อให้ เเต่จะนำรถมาลากรถของคุณไปไว้ที่ สน. เเละอาจโดนโทษปรับแพงขึ้นกว่าเดิม

เครดิต www.mthai.com