วิธีเอาตัวรอดจากกล้องจับความเร็วง่ายๆ

กล้องตรวจจับความเร็ว อุปกรณ์ที่คนใช้รถใช้ถนนต่างรู้จักดี โดยเฉพาะคนที่ต้องขับรถในระยะไกลข้ามจังหวัดทุกคนต่างต้องเคยเห็น ป้ายตรวจจับความเร็ว หรืออาจมีประสบการณ์โดน ใบสั่ง ค่าปรับฐานขับรถเร็วเกินกฏหมายกำหนดส่งมาที่บ้าน ด้วย กฏหมายจำกัดความเร็ว บนท้องถนนที่โบราณเกือบ 40ปี ไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมรรถนะเครื่องยนต์ของรถที่ได้รับการพัฒนาขึ้นทุกปี จึงเป็นการยากที่เราๆ ท่านๆ จะสามารถขับรถได้ตามอัตราความเร็วที่กฏหมายระบุไว้ที่ห้ามเกิน 80กม/ชม. ในเขตกรุงเทพ พัทยา เเละเทศบาล, ทางหลวงชนบทไม่เกิน 90กม/ชม. เเละทางหลวงไม่เกิน 120 กม/ชม. นั่นจึงเป็นที่มาของการสูญเสียทรัพย์เพื่อต้องจ่ายค่าปรับกันมานักต่อนัก

ดังนั้นในช่วงเทศกาลแบบนี้เจ้าหน้าที่ยิ่งต้องเข้มงวดเรื่องวินัยจราจรอย่างมากเป็นพิเศษจุดตรวจวัดความเร็วอาจมีมากกว่าปกติ ฉะนั้นสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนหากไม่อย่าเสียทรัพย์โดนค่าปรับพาลทำให้การเดินทางไม่สนุกเสียบรรยากาศ เรามีวิธีง่ายๆ ให้คุณเอาตัวรอดจากกล้องตรวจจับความเร็วแบบไม่ต้องมีเคล็ดลับหรืออุปกรณ์ใดสามารถทำได้ด้วยตัวเองดังต่อไปนี้

  1. หัดเป็นคนหูไวตาไว เวลาขับรถอย่ามัวเพลินกับทิวทัศน์สองข้างทาง เพราะความเร็วตอนนั้นของคุณอาจเกินกฏหมายที่กำหนด ควรหัดสังเกตสิ่งที่อยู่รอบๆ ถนนว่ามีกล้อง CCTV ตรวจจับความเร็วอยู่ด้านบนด้านข้างหรือไม่ หรือมีป้ายเตือนตรวจจับความเร็วในบริเวณที่ขับผ่านหรือไม่ หากสังเหตเห็นป้ายจำกัดความเร็วเเละมีกล้องติดอยู่ที่ป้ายมั่นใจได้เลยว่าหากไม่ถอดคันเร่งอีกไม่นานเกินรอใบสั่งจะบินมาหาคุณที่บ้านแน่นอน
  2. หากเจอป้ายเตือนตรวจจับความเร็ว หรือป้ายจำกัดความเร็ว รวมถึงป้าย Your Speed ที่บอกตัวเลขความเร็วของรถที่เเล่นผ่านแบบเรียลไทม์บนท้องถนนไม่ว่าคุณจะวิ่งมาด้วยความเร็วแค่ไหน เมื่อเห็นป้ายดังกล่าวไกลๆ ควรถอนคันเร่งให้ความเร็วลดลงมาเท่ากับที่กฏหมายระบุโดยทันทีในระยะ 2-300เมตร เพราะส่วนใหญ่มักมีกล้องตรวจจับความเร็วติดตั้งไว้ด้วย
  3. เมื่อเห็นป้ายจำกัดความเร็วในเขตชุมชน ส่วนใหญ่จะจำกัดความเร็วที่่ 20-60 กม/ชม. ควรยกคันเร่งออกเเล้วเลี้ยงความเร็วไม่ให้เกินหรือเกินก็เหลื่อมล่ำได้ไม่เกิน 10กม/ชม. จะเป็นการเลี่ยงการโดนใบสั่งปรับความเร็วเกินกำหนด เพราะในบริเวณดังกล่าวอาจมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนสังเกตการณ์รถราที่วิ่งผ่านไปมาในมุมที่เรามองไม่เห็น ยิ่งในเขตชุมนที่จำกัดความเร็วต่ำ หากมีรถสักคันที่วิ่งเกินกฏหมายกำหนด เจ้าหน้าที่สามารถดูด้วยตาเปล่าได้ง่ายๆ ว่าคุณกำลังขับเกินความเร็วที่กฏหมายกำหนด หากมีด่านวินัยจราจรด้านหน้า เจ้าหน้าที่อาจวิทยุบอกด่านข้างหน้าให้สกัดรถคุณได้
  4. มีอีกหนึ่งวิธีที่จ้าหน้าที่ใช้ตรวจจับความเร็วรถที่วิ่งผ่าน คือมักจะจอดรถไว้ริมทาง ริมถนน หรือในมุมอับเเล้วใช้กล้องจับความเร็วยิงรถที่เเล่นผ่าน หากรถคันไหนที่ขับผ่านเเละใช้ความเร็วเกินกฏหมายกำหนด เจ้าหน้าจะวิทยุถึงด่านหรือเจ้าหน้าที่ๆ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ข้างหน้าให้สกัดจับรถของคุณ ซึ่งเจ้าหน้าที่ๆ จับความเร็วจะระบุความเร็วที่คุณใช้ รถยนต์รุ่นที่ขับ ป้ายทะเบียนรถของคุณเรียกว่ามีหลักฐานมัดตัวขนาดนี้ คุณไม่มีทางดิ้นหลุดข้อหาได้แน่นอน ฉะนั้นเวลาขับรถทางไกลเเล้วเจอรถตำรวจที่จอดข้างทางอยู่ข้างหน้าให้รีบชะลอความเร็วลงทันที

เครดิต www.mthai.com