คาดเข็มขัดนิรภัย แบบไหนปลอดภัยที่สุด

อีกไม่กี่วันก็ใกล้วันสิ้นปีกันแล้ว แน่นอนหลายคนก็เริ่มวางแผนและเตรียมตัวออกเดินทางมุ่งสู่ต่างจังหวัดกันบ้างแล้ว ที่สำคัญเมื่อออกเดินทางผู้ใช้รถก็ควรที่จะต้องตรวจ เช็คสภาพรถยนต์ ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง และที่สำคัญไปกว่านั้นก่อนออกเดินทางก็ควร คาดเข็มขัดนิรภัย ทุกครั้งเช่นกันเพื่อความปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งถ้าหากไม่ คาดเข็มขัดนิรภัย หรือคาดไม่ถูกวิธีก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เป็นได้ วันนี้เราได้รวบรวมวิธีการคาดเข็มขัดนิรภัยแบบไหนให้ปลอดภัยมากที่สุด เมื่อต้อง ขับรถทางไกล

  1. ปรับพนักพิงตรงหลังให้เป็นแนวตั้ง ไม่เอนจนเกินไป หลังจากนั้น คาดเข็มขัดนิภัยให้แนบไปกับกระดูกเชิงกราน เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น กระดูกเชิงกรานจะสามารถรับแรงกระแทกได้สูงถึง 1,000 กิโลกรัม อีกทั้งการคาดเข็มขัดนิภัย ควรคาดให้ต่ำกว่าการใส่เข็มขัดปกติประมาณ 5-10 เซนติเมตร ส่วนด้านบนเส้นเข็มขัดต้องพาดจากกระดูกไหปลาร้าไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง
  2. สำหรับสตรีมีครรภ์ ควรปรับพนักพิงให้ตั้งตรง ไม่เอนไปด้านลังเกินไปหรือปรับตั้งตรงจนเกินไป ให้ปรับให้พอดีกับระยะห่างจากเยาะที่นั่งให้พอดีอย่างชิดจนเกินไป เพราะเนื่องจากเวลาเกิดกระกระแทก ครรภ์อาจมีโอกาสไปกระแทกกับคอนโซลได้ ดังนั้นแล้ว เมื่อคาดเข็มขัดนิรภัยควรคาดให้ผ่านบริเวณหน้าตักจนไปถึงใต้ครรภ์ พยายามปรับให้ตัวเข็มขัดอยู่บริเวณสะโพก ส่วนสายที่พาดกับร่องไหล่ พยายามขยับสายไปทางด้านหน้ามากกว่าปกติ ไม่ควรพาดผ่านตรงกลางครรภ์
  3. ส่วนเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ ควรนั่งคาร์ซีท หรือที่นั่งสำหรับเด็ก แต่ถ้าหากไม่มีที่นั่งสำหรับเด็ก ควรให้เด็กนั่งที่เบาะหลัง หลังจากนั้นคาดเข็มขัดให้แน่นหรือรัดให้แนบตัวของเด็ก
  4. ในขณะที่เด็กอายุ 7-12 ขวบ ควรเลือกให้เด็กนั่งบนเบาะเสริม เพราะเนื่องจากเข็มขัดนิรภัยเมื่อคาดตัวเด็กแล้ว ตัวสายที่พาดอาจจะพาดที่ใบหน้าของเด็ก

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะคุณจะเดินทางไกลเป็นระยะทางไม่กี่กิโลเมตรก็ตามแต่ แต่ถ้าคุณหรือเด็กนั่งด้านหลังก็ควรที่จะต้อง คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งก่อนออกเดินทาง เพราะเนื่องจากเข็มขัดนิรภัยถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญแถมยังคอยช่วยเหลือเราเมื่อเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงได้ (ช่วยผ่อนหนักให้กลายเป็นเบา) แต่ถ้าหากคุณไม่คาดเข็มขัดแล้วล่ะก็…..มีโอกาสบาดเจ็บ หรือสาหัส หรืออาจจะถึงขั้นเสียชีวิตมากกว่าคนที่ คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งด้วยแรงเหวี่ยงของรถก็อาจจะทำให้ตัวกระเด็นออกไปกระแทกกับสิ่งของ หรืออาจจะกระเด็นออกนอกรถไปเลยก็ได้

เครดิต www.mthai.com