เป็นไปได้หรือไม่ที่ สัตว์เลื้อยคลาน เข้ามาอยู่ในห้องโดยสาร?

หลังจากที่มีคลิปเผยแพร่ในโลกโซลเชี่ยลมีเดียที่แสดงภาพชายหนึ่งที่กำลังขับรถบนถนนตามปกติ เเต่เเล้วปรากฏภาพของลูก ตัวเงินตัวทอง ไซส์เล็กโผล่ออกมาทักทายหลังพวงมาลัยจนเจ้าตัวตกใจแทบคุมสติตัวเองไม่อยู่ จนเกิดคำถามจากคนส่วนใหญ่ที่ดูคลิปว่า เจ้าของรถจัดฉากหรือถ้าไม่ หรือถ้าไม่เหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่

รถยนต์หนึ่งคันคุณอาจจะเห็นมีช่องต่างๆ ภายนอกอยู่มากเช่น ช่องระบายอากาศที่กระจังหน้ารถ, ท่อไอเสีย, หรือช่องรูต่างๆ บริเวณ จนพาลทำให้เข้าใจผิดคิดว่ารูหรือช่องเหล่านี้ หากมี สัตว์เลื้อยคลาน ตัวเล็กๆ เข้ามาก็อาจเป็นช่องทางทำให้มันเข้ามาสู่ ภายในห้องโดยสาร รถยนต์แบบที่คุณอาจไม่ได้รับเชิญได้

แต่ในความจริงเเล้วระหว่างเครื่องยนต์และห้องโดยสารจะมีช่องสำหรับให้ชุดสายไฟผ่านได้จุดนี้โดยปรกติแล้วจะมีการซีลปิดสนิท แถมฉนวนกันความร้อน กันเสียง กันกลิ่นเข้าห้องโดยสาร ดังนั่นไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดที่จะเล็ดลอดเข้าไปได้ ยิ่งในปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่ๆ คุณเเทบไม่ต้องกังวลกับเรื่องดังกล่าวเพราะทุกค่ายรถปิดทุกๆช่องที่เป็นท่ออยู่ภายในรถนั้นด้วยจุกอย่างแน่นหนา

แต่โอกาสที่สัตว์เลื้อยคลานจะเข้ามาในรถของคุณก็มีเช่นกันในกรณีที่มีการติดตั้งเครื่องเสียงหรือติดตั้งแก๊สแล้วมีการนำสายไฟผ่านช่องระหว่างเครื่องยนต์และห้องโดยสารแล้วได้ไม่ซีลกลับคืนให้ดีหรือรถยนต์บางคันติดตั้งชุดแก๊สแล้วให้ช่างเจาะช่องท้ายกระโปรงให้ระบายแก๊สใหญ่มากเกินไป สัตว์เลื้อคลายก็อาจเลื้อยเข้าช่องนี้เข้ามาให้ห้องโดยสารได้ หรืออีกกรณีคือขณะจอดรถมีการเปิดประตู หรือลดกระจกรถทิ้งไว้ สิ่งเหล่านี้ก็มีโอกาสที่สัตว์เลื้อยคลานจะเข้ามาในรถได้

ทางแก้เบื้องต้นหากไม่ต้องการให้สัตว์เลื้อยคลานเข้ามาในรถ

  1. ตรวจสอบว่าคุณของคุณมีการปิดซีลจากห้องเครื่องสู่ห้องโดยสารสนิททุกจุดหรือไม่
  2. ใช้ กำมะถัน น้ำมันเครื่อง มะกรูด หรือ สิ่งที่มีกลิ่นฉุน วางไว้รอบๆโรงจอดรถ เพราะงูเองไม่ชอบกลิ่นฉุนทำให้งูจะไม่เข้าใกล้รถยนต์
  3. อย่าจอดรถยนต์ในพื้นที่ป่ารก หรือ หญ้าขึ้นสูงๆ เพราะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยอย่างดีของสัตว์เลื้อยคลาน

หากเจอสัตว์เลื้อยคลานหรืองูเข้ารถควรโทรแจ้งกู้ภัย หรือ จส. 100 โทร 1137 หรือ สวพ. 91 โทร 1644

เครดิต www.mthai.com