ทุกวันนี้รถใหม่ๆ ในบ้านเรา ส่วนมากจะเป็นระบบ เกียร์ออโต้ หรือเกียร์อัตโนมัติ เนื่องจากมันมีความสะดวกสบายมากกว่าเกียร์ธรรมดา ไม่ต้องคอยมานั่งเหยียบคลัทช์ เปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ และขับง่ายขึ้นเมื่อเข้าสู่เมืองใหญ่ๆ ที่มีการจราจรหนาแน่น เช่น กรุงเทพฯ

ซึ่งนอกจากจุดเด่นต่างๆ ของเกียร์ออโต้ตามที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว จุดด้อยของมันก็ไม่ควรมองข้าม เพราะหากเกียร์ออโต้เสีย หรือพังขึ้นมาเมื่อไหร่ คุณได้เจอค่าซ่อม ค่าเปลี่ยนใหม่แบบมหาโหดแน่ๆ เนื่องจากค่าอะไหล่ของชุดเกียร์มีราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่า มีอะไรบ้างที่คุณไม่ควรทำกับรถเกียร์ออโต้

ซึ่งเราได้รวบรวมเอาไว้ 5 ข้อหลักๆ ดังนี้

กดคันเร่งจนมิด หรือคิกดาวน์บ่อยๆ

เพราะต้องการเร่ง หรือแซงในบางจังหวะ ซึ่งการทำแบบนี้ จะทำให้เกียร์เปลี่ยนอัตราทดต่ำลง และเมื่อเครื่องยนต์เรียกรอบได้ ก็จะทำให้รถมีกำลังเพื่อที่จะเร่งแซง หรือพุ่งไปด้านหน้าได้รวดเร็วกว่าเดิม แต่การทำแบบนี้บ่อยๆ ก็จะทำให้แรงบิดที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วนี้ ไปทำความเสียหายกับชุดเกียร์มากกว่าปกติ ส่งผลทำให้ชุดเกียร์พังไวขึ้น

เบิ้ลหรือเร่งเครื่องยนต์แล้วเข้าเกียร์เพื่อออกตัว

ถือเป็นการออกตัวที่รวดเร็วทันใจ หลายๆ คนจึงมักใช้วิธีเบิ้ล หรือเร่งเครื่องยนต์ก่อน จากนั้นจึงเข้าเกียร์เดินหน้า (D) ซึ่งถึงแม้วิธีนี้จะช่วยทำให้ออกตัวได้เร็วกว่าเดิมก็จริง แต่มันก็ได้สร้างความเสียหายให้แก่ชุดเกียร์ และเพลาขับ รวมไปถึงยางรถยนต์ด้วย

รถติดบนถนนแล้วเข้าเกียร์ P

ไม่ว่าจะติดไฟแดงหรือจอดไว้ข้างทางที่มีรถวิ่งอยู่ หากเข้าเกียร์ P ไว้ สลักล็อกในชุดเกียร์ก็จะทำงาน ทำให้เมื่อเกิดอุบัติถูกชนท้ายขึ้นมา มันก็จะก่อให้เกิดความเสียหายกับชุดเกียร์มากขึ้น ดังนั้นคุณจึงควรใช้เกียร์ P เฉพาะบางพื้นที่ เช่น จอดรถในบ้าน ที่จอดรถในห้าง หรืออาคารจอดรถ ฯลฯ

เข้าเกียร์ N แล้วปล่อยรถไหลไปตามทาง

บางครั้งอาจปล่อยไหลลงสะพาน หรือก่อนจะถึงไฟแดง ซึ่งการทำแบบนี้ถือว่าไม่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะคุณจะทำให้ชุดเกียร์ที่หมุนขบกันไปมาตลอดเวลา ขาดน้ำมันเกียร์ เนื่องจากการเข้าเกียร์ N จะทำให้ชุดเกียร์ไม่สามารถใช้น้ำมันเกียร์เข้ามาหล่อลื่นได้ ทำให้เกิดความร้อนสูงมากกว่าปกติ และก่อให้เกิดความเสียหายในชุดเกียร์

ลากรถที่เสียแบบเคลื่อนที่ได้

อาจจะดูงงๆ ว่าทำไมการลากรถเกียร์ออโต้ที่เสีย ถึงลากแบบเคลื่อนที่ไม่ได้ จริงๆ แล้วคุณสามารถลากได้หมด แต่ต้องจำไว้ว่า หากรถของคุณขับเคลื่อนล้อใด (ขับเคลื่อนล้อหน้า – ขับเคลื่อนล้อหลัง) คุณต้องยกล้อนั้นๆ ขึ้นให้พ้นพื้นถนน เพราะส่วนใหญ่รถที่เสียมักจะไม่สตาร์ทเครื่องยนต์ไว้ ปั๊มน้ำมันเกียร์จึงไม่ทำงาน ทำให้ชุดเกียร์ และฟันเฟืองต่างๆ ทำงานโดยไม่มีการหล่อลื่น ส่งผลให้เกิดการเสียดสีอย่างรุนแรง รวมไปถึงทำให้เกิดความร้อนสูงในห้องเกียร์ ยิ่งถ้าลากไประยะทางไกลๆ เกียร์พังทันทีแน่ๆ แต่ถ้าไม่มีทางเลือกอื่น ให้ลากไปแบบช้าๆ อย่าให้เกิน 30 กม./ชม. เพื่อรีบไปหาอู่ที่ใกล้ที่สุด

     การดูแลรักษาเกียร์ออโต้ หรือเกียร์อัตโนมัติ อาจจะต้องใส่ใจมากกว่าเกียร์ธรรมดา เพราะค่าซ่อม ค่าเปลี่ยนใหม่ ค่อนข้างที่จะแพงเอาเรื่อง ดังนั้นเมื่อถึงเวลาตรวจเช็ก หรือเช็กระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ก็ควรที่จะทำทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน ไม่งั้นได้เสียเงินมากกว่าเดิมแน่ๆ

 

 

เครดิต www.sanook.com

 

“ไช้กูอยู่หนาง” 4D56U ยกเครื่องไทรทันพลัส+ Ride in High Style