อีกหนึ่งคู่เทียบหน้าใหม่ ในราคา 799,000 บาท เท่ากัน หากใครกำลังเล็งเอสยูวีสองรุ่นนี้อยู่ บอกเลยว่าคิดหนัก

ในบทความนี้ เราได้หยิบยกรถยนต์สองรุ่นมาเปรียบเทียบกันเหมือนเช่นเคย โดยรุ่นแรกจากฝั่งของญี่ปุ่น Honda WR-V รุ่นย่อย SV กับอีกคันคือทางฝั่งของจีน Haval Jolion รุ่นย่อย Sport ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ เป็นรุ่นเริ่มต้นเหมือนกันทั้งคู่ แม้ขนาดตัวถังจะต่างกัน แต่มีราคาจำหน่ายเท่ากันคือ 799,000 บาท โดยการเปรียบเทียบครั้งนี้ เราจะเน้นที่ราคาเป็นหลักนะครับ อย่าไปดราม่าเรื่องขนาดตัวถังล่ะ

มิติตัวถัง

Honda WR-V รุ่น SV

  • ยาว 4,060 มม.
  • กว้าง 1,780 มม.
  • สูง 1,608 มม.
  • ฐานล้อ 2,481 มม.
  • ความสูงใต้ท้องรถ 220 มม.

Haval Jolion รุ่น Sport

  • ยาว 4,472 มม.
  • กว้าง 1,874 มม.
  • สูง 1,626 มม.
  • ฐานล้อ 2,700 มม.
  • ความสูงใต้ท้องรถ 168 มม.

หากดูที่ขนาดตัวถัง จะพบว่า Haval Jolion รุ่น Sport มีตัวถังที่ใหญ่กว่าในทุกมิติ เอาจริงแล้ว Haval Jolion จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกับ Honda HR-V แต่ด้วยราคาที่เท่ากันเลยต้องหยิบยกขึ้นมาเปรียบเทียบ แต่เรื่องของความสูงใต้ท้องรถนั้น WR-V จะสูงกว่า ทำให้ได้เปรียบเวลาที่ต้องขับลุยน้ำท่วม หรือเส้นทางขรุขระ

ดีไซน์ ภายนอก ภายใน

Honda WR-V รุ่น SV

Honda WR-V รุ่น SV คือรุ่นเริ่มต้น อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ให้มาจะเป็นแบบสแตนดาร์ดเรียบง่าย แต่ก็ได้ความโดดเด่นจากการดีไซน์ ในส่วนของไฟหน้าเป็นแบบแอลอีดี มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ มีไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบวิ่งออกข้าง ที่ด้านบนของกระจกหน้ารถจะมีกล้อง ซึ่งกล้องตัวนี้ทำหน้าที่ในการตรวจจับ ทำงานให้กับระบบความปลอดภัยหลายระบบของรถคันนี้ รวมไปถึงระบบ Honda SENSING ด้วย

มือเปิดประตู จะมีปุ่มสีดำเล็ก ๆ สำหรับล็อคและปลดล็อครถ และยังมีระบบ Walk Away Auto Lock ซึ่งระบบนี้จะล็อครถให้เองเมื่อผู้ถือกุญแจยืนอยู่นอกรถ และยังสามารถสั่งสตาร์ทรถผ่านกุญแจรีโมทได้อีกด้วยครับ

ไฟท้าย LED รูปตัวแอลคว่ำหัว พร้อมกล้องมองหลังที่สามารถปรับมุมมองได้ 3 ระดับ ฝากระโปรงท้ายเปิดแบบแมนนวลมือยังไม่ใช่ไฟฟ้า

ภายในสีดำ พวงมาลัยแบบ 3 ก้านหุ้มหนัง พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชันสำหรับควบคุมเครื่องเสียง มีปุ่มรับสาย-วางสาย และปุ่มตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control

จอเครื่องเล่นแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto มีระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน SIRI เมื่ออยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอยกล้องจะตัดเป็นภาพด้านหลัง มองเห็นรู้เรื่องทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ยังสามารถปรับมุมกล้องได้ 3 ระดับ

เบาะหลังปรับแยกได้ 2 ส่วน 60:40 แต่ฐานเบาะนั่งจะไม่สามารถยกขึ้นมาได้ มีที่วางแขนตรงกลางแบบพับเก็บได้ สำหรับการนั่งโดยสารเบาะหลัง ถือว่านั่งได้สบาย เบาะนุ่มกำลังดี ประกอบกับด้านข้างเป็นกระจกบานใหญ่ จึงทำให้ไม่รู้สึกเวียนหัว แต่เสียดายที่ไม่มีแอร์หลังมาให้

Haval Jolion รุ่น Sport

Haval Jolion รุ่น Sport เป็นรุ่นเริ่มต้นเช่นกัน ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบใหม่ Black Symmetric สีดำเงา และโลโก้ HAVAL แบบใหม่ รวมถึงมีการตกแต่งแบบ ALL BLACK เช่น กระจกมองข้าง, Roof Rail และ Shark Fin เพื่อเพิ่มความสปอร์ต ในส่วนของไฟหน้าก็เป็นแบบใหม่เช่นกัน LED เต็มระบบ ซึ่งไฟหน้าแต่ละข้างด้านในจะมีทั้งหมด 4 ดวง ทำหน้าที่เป็นไฟต่ำ 2 ดวง และ เป็นไฟสูง 2 ดวง พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว สีดำทั้งวง

ไฟท้าย LED เต็มระบบ ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ชุดดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์ใหม่ ในรุ่นนี้กล้องรอบคันโดนตัดออก จะมีให้แค่กล้องหลังเท่านั้น พร้อมเซนเซอร์ถอย 3 จุด

ภายในตกแต่งแบบ ALL-BLACK ตัดด้วยเส้นสายสีเงิน เบาะหนังสังเคราะห์ดีไซน์สปอร์ต ฝั่งคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง มีที่วางแขนด้านหน้า พร้อมช่องวางแก้วน้ำ พวงมาลัยหุ้มหนัง พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชันสำหรับควบคุมจอแสดงผล และจอเครื่องเล่นตรงกลาง

หน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto, Bluetooth และ MP3 มีลำโพงจำนวน 6 ตัว พร้อมระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ เมื่ออยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย กล้องด้านหลังจะแสดงภาพมาที่จอกลาง พร้อมเส้นกะระยะที่หมุนเลี้ยวตามพวงมาลัย ในส่วนของระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา ซึ่งการปรับอุณหภูมิและระดับความแรงลม จะต้องเข้ามาปรับที่หน้าจอเครื่องเล่นตรงกลาง

เบาะหลังนุ่มกำลังดี นั่งโดยสารทางไกลไม่รู้สึกเมื่อย พนักพิงพับได้แบบ 60:40 เมื่อพับลงไปแล้วจะเรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บสัมภาระ นอกจากนี้ยังมีแอร์ด้านหลัง ส่วนที่วางแขนด้านหลังโดนตัดออก

เครื่องยนต์

Honda WR-V รุ่น SV

เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC กำลังสูงสุด 121 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงใน Eco Sticker 16.7 กิโลเมตร/ลิตร ใช้งานจริงได้ 15.7 กม./ล.

Haval Jolion รุ่น Sport

เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 375 นิวตันเมตร ระบบเกียร์แบบ DHT อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงใน Eco Sticker 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ใช้งานจริงได้ 14 กม./ล.

ระบบช่วงล่าง

ทั้งสองรุ่น ใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอสันสตรัท ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม เหมือนกันทั้งคู่ จากการที่ได้ทดลองขับมาทั้ง 2 รุ่น ถือว่าเป็นรถที่ขับแล้วมั่นใจ ซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีเหมือนกันทั้งคู่ แต่ด้วยขนาดตัวรถที่ต่างกัน จึงทำให้ความคล่องตัวต่างกันไปด้วย WR-V ออกแนวเฟิร์มแต่ไม่ถึงกับกระด้าง เวลาขับเปลี่ยนเลนดูกระฉับกระเฉงคล่องตัวมุดง่าย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวถังที่เล็กกว่า แต่ถ้าใช้ความเร็วบนสะพานสูงที่มีลมแรง อาจมีหวิว ๆ บ้าง สำหรับ Haval Jolion Sport จะออกแนวเฟิร์มเช่นเดียวกัน แต่ด้วยตัวถังใหญ่กว่า ฐานล้อยาวกว่า เมื่อวิ่งบนสะพานสูงลมแรงให้ความรู้สึกมั่นใจกว่า แต่ขับมุดในเมืองคล่องตัวน้อยกว่า

ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือ

Honda WR-V รุ่น SV

  • ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)
  • ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags)
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
  • ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
  • ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
  • ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock By Speed)
  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN)

Haval Jolion รุ่น Sport

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (CC)
  • กล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง
  • ถุุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง ในกรณีที่ถุงลมนิรภัยทำงาน ประตูจะถูกปลดล็อกโดยอัตโนมัติ และรถยนต์จะโทรติดต่อศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน พร้อมทั้งสามารถส่งตำแหน่งเพื่อขอความช่วยเหลือได้
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) และ ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
  • ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)
  • ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM)
  • ระบบไฟกระพริบเมื่อเบรกรถกระทันหัน (ESS)
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
  • เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 3 จุด
  • Auto Break Hold ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่นหยุดอัตโนมัติขณะรถหยุุดนิ่ง
  • ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด
  • ระบบควบคุุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (VSS)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS)

สรุปโดยรวม ทั้งสองรุ่นแม้จะมีราคาจำหน่ายเท่ากัน 799,000 บาท แต่มีข้อดี และข้อด้อยต่างกัน หากดูที่ขนาดตัวรถ Haval Jolion รุ่น Sport ได้เปรียบกว่า ตัวถังใหญ่กว่า ภายในกว้างกว่า ตกแต่งในสไตล์สปอร์ตมาจากโรงงาน หล่อแบบเดิม ๆ โดยไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่ม แต่สำหรับ Honda WR-V รุ่น SV จะมาในดีไซน์แบบเรียบง่าย แต่ได้ความกระฉับกระเฉง รูปทรงกะทัดรัด ได้ความคล่องตัวที่มากกว่า

สมรรถนะเครื่องยนต์หากมองที่ความแรง Haval Jolion รุ่น Sport ได้เปรียบกว่า ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า ผลิตแรงม้าและแรงบิดได้มากกว่าเครื่องยนต์ของ Honda WR-V ที่ใช้เครื่องยนต์ทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ในเรื่องของความประหยัดน้ำมัน  Honda WR-V ประหยัดมากกว่า ถือเป็นจุดแข็งของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ และระบบความปลอดภัย Honda WR-V รุ่น SV ได้เปรียบกว่า มีระบบต่าง ๆ ให้เยอะกว่า ในขณะที่ Haval Jolion รุ่น Sport เป็นรุ่นที่ตั้งใจกดราคาให้ต่ำ จึงโดนตัดกล้อง ADAS ออก ทำให้ระบบที่พ่วงกับกล้องดังกล่าวโดนตัดออกไปทั้งหมด เหลือไว้แค่ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

บริการหลังการขาย จุดนี้ผมยกให้ Honda WR-V ได้เปรียบกว่า เพราะมีศูนย์บริการครอบคลุมทุกจังหวัด อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ ในขณะที่ Haval Jolion คือรถที่อยู่ในเครือแบรนด์ GWM ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทยได้ไม่นาน แม้ปัจจุบันจะทยอยเปิดศูนย์บริการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้ามองที่จำนวน ยังถือว่าห่างกันเยอะมาก ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจกับลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัด

สุดท้ายนี้ก็อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนครับ หากชอบความหล่อแบบเดิม ๆ ไม่เน้นออพชั่น ก็จัด Haval Jolion รุ่น Sport แต่ถ้าอยากได้ความหล่อแบบพื้น ๆ แต่ได้ระบบต่าง ๆ ที่มากกว่า ก็จัดรุ่น Honda WR-V รุ่น SV

ข้อมูลทั้งหมดนี้เขียนขึ้นจากความคิดเห็นส่วนตัว อย่าเพิ่งเชื่อผมทั้งหมด จนกว่าคุณจะได้ไปลองสัมผัสเองทั้งสองรุ่น

 

 

เครดิต www.autospinn.com

 

พ่อน้องออนิว! ISUZU D-MAX 4JJ1 สามพัน ปี2004