วิธีอ่านค่าตัวเลขบนแก้มยาง บอกคุณภาพยาง ก่อนเปลี่ยนยางใหม่มาดูเลขที่แก้มยางกันก่อน เลือกยางได้ตรงใจคุณ

          ว่าด้วยเรื่องของยางรถยนต์ ผู้ใช้รถหลายท่านมองข้ามและเห็นเรื่องเข้าใจยาก แต่อยากให้ทำความเข้าใจกันใหม่ ยางรถยนต์ถือเป็นสิ้นค้าราคาแพงที่เปลี่ยนแต่ละครั้งก็ใช้งบไม่น้อยกว่า 7 พันบาทไปถึง 3 หมื่นตามรุ่น คุณสมบัติและยี่ห้อของยาง

          คำถามยอกฮิตที่ถามกันบ่อยว่า ยางรุ่นไหนดี ? ก็เป็นเรื่องที่บอกยาก วันนี้เราจึงขอแนะนำให้อ่านค่าตัวเลข-ตัวอักษรบนแก้มยาง ที่สามารถบอกคุณภาพของยางได้ระดับหนึ่ง

          จากรูปภาพมีตัวอักษรดังนี้ 195/60R15 88H

          195 คือ หน้ายาง/ความกว้างของยาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร

          60 คือ ​ซีรีส์ยาง/บอกความสูงของแก้มยางหน่วยเป็นเปอร์เซ็น (60% ของ 195 มม.)โดยคิดจากตัวเลขชุดแรก ตัวอย่างวิธีคิด ความสูงของแก้มยาง (195*60)/100 = 117 มม. 

          R คือ โครงสร้างยางแบบเรเดียล ปัจจุบันมีอยู่ 3 แบบ

          1. โครงยางแบบธรรมดา (Bias หรือ Conventional tire) คุณสมบัติเบื้องต้น วิ่งนุ่มนวลแต่ไม่ทน

          2. โครงยางเรเดียล (Radial tire) คุณสมบัติเบื้องต้น ทนทานที่สุด ทำให้รถประหยัดน้ำมัน แต่ความนุ่มนวลน้อย

          3. โครงยางแบบเบลเตดไบแอส (Belted bias tire) คุณสมบัติเบื้องต้น อยู่ระหว่างกลางแบบ ธรรมดาและเรเดียล ที่นุ่มปานกลางและคงทนปากลาง

          15 คือ​ เส้นผ่าศูนย์กลางยาง ที่ไว้ใส่กับกระทะล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว (ภาษาพูดล้อขอบ 14, ขอบ 15 ขอบ 16 ในเก๋ง)

          88 คือ เลขดัชนีในการรับน้ำหนักของยางต่อเส้น (เช็กค่าได้จากในตาราง) 

          H​ คือ ขีดจำกัดความเร็วสูงสุด (เช็กได้จากตารางด้านล่าง)

          และสุดท้ายที่อยากแนะนำให้อ่านคือวันที่ผลิตยาง โดยตัวเลขคู่หน้าเป็นสัปดาห์ที่ผลิต (หนึงปีมี 52 สัปดาห์) และเลขคู่หลังเป็นปี ค.ศ.

          จากตัวอย่างจะเห็นเลข 1915 หมายความว่ายางเส้นนี้ผลิตเมื่อ สัปดาห์ 19 ของปี 2015 และทั้งหมดนี้ ก็เพียงพอต่อการเลือกดู เลือกซื้อยางรถแล้ว ส่วนค่าอื่น ๆ เป็นระดับช่างหรือผู้จำหน่ายที่ควรรู้ เปลี่ยนยางคราวหน้าก็ลองขอดูยางจริงเพื่ออ่านค่าจากร้านได้

          บางทีคุณอาจจะได้ยางที่คุณสมบัติเท่ากันในราคาที่ถูกกว่าก็เป็นได้ครับ หรือใครใช้ยางรุ่นไหนแล้วดีก็ลองเม้นท์บอกต่อกันได้เลยครับ

ขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆจาก www.kapook.com