จุดเล็ก ๆ ที่ไม่ใช่เรื่อง “เล็ก” อย่างที่รู้ ๆ กันว่า เทอร์โบทำงานได้โดยอาศัยความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้ของไอดีและขยายตัวอย่างรวดเร็วในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และเมื่อวาล์วไอเสียเปิดไอเสียที่มีแรงดันก็จะรีบไหลออกไปภายนอกโดยเร็วเข้าไปยังเทอร์โบด้านไอเสีย

โดยที่ตัวเทอร์โบด้านไอเสียนี้จะถูกออกแบบให้ทางเดินของมันค่อย ๆ เล็กลง ทั้งนี้เพื่อเร่งให้ไอเสียมีความเร็วมากขึ้น และจะไปดันให้ใบพัดเทอร์ไบน์ของเทอร์โบหมุนได้เร็วพอที่จะอัดอากาศทางด้านใบพัดคอมเพรสเซอร์ด้านไอดีได้โดยความเร็วในการหมุนได้ประมาณ 120,000- 140,000 รอบ /นาที ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าหากเราใช้ท่อไอเสียหรือรูพอร์ทที่ฝาสูบด้านไอเสียโตเกินไป ความเร็วของไอเสียจะลดลง อาจมีผลต่อประสิทธิภาพในการอัดไอดีของเทอร์โบให้ลดน้อยลงได้ เนื่องจากใบพัดหรือแกนเทอร์ไบน์หมุนช้าลง แต่ถ้าเป็นส่วนที่ไอเสียออกจากตัวเทอร์ โบไปแล้วเราจะใช้ท่อไอเสียที่เล็กเกินไปไม่ได้เป็นอันขาด เพราะจะเกิดความร้อนในเครื่องยนต์ เนื่องจาก ไม่สามารถระบายไอเสียออกได้ทัน

บางครั้งจะเห็นได้ว่ามีการนำเอาฉนวนกันความร้อนต่าง ๆ มาหุ้มอยู่รอบตัวเทอร์โบหรือท่อไอเสีย หรือที่นิยมเรียกว่า เอาท่อไอเสียมาทำเป็น “มัมมี่” นั่นเอง ตัวฉนวนนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อกันความร้อนจากตัว เทอร์โบหรือท่อไอเสียไม่ให้ไปสัมผัสกับสิ่งอื่นรอบข้างเท่านั้น แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มีหน้าที่สะสม หรือช่วยกันความร้อนภายในระบบของไอเสียมิให้สูญหายถ่ายเทออกไปภายนอก ทั้งนี้เพื่อให้พลังงาน ความร้อนที่ได้ออกมาจากเครื่องยนต์ทั้งหมดได้เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานเชิงกลได้อย่างเต็มที่โดยสูญหายไปน้อยที่สุด

แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน คือหากเราใช้ท่อไอเสียเป็นเหล็กเหนียวมาเชื่อมต่อกัน อย่างธรรมดาทั่วไป ความร้อนที่สูงมากจนสามารถทำให้ท่อแตกร้าวได้ ซึ่งบางทีก็พอป้องกันได้บ้าง ด้วยการแยก ท่อออกให้เป็นแบบสวมต่อกันเป็นช่วงๆ ระหว่างสูบ เพื่อให้มันขยายตัวได้บ้าง แต่ก็ต้องหาวิธีป้องกันการ รั่วของไอเสียให้ดี โดยอาจจะใช้พวกปะเก็นทองแดงแทนก็ได้ หรือถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นไปอาจจะใช้พวกท่อไอเสียที่มีลักษณะเป็นข้ออ่อนที่ยืดหยุ่นได้ทำด้วยสเตนเลสถักจะช่วยตัดปัญหาเรื่องการขยายตัวจนแตกและ รั่วซึมได้เด็ดขาดแต่ราคาก็แพงมากขึ้น 

ในกรณีที่เราจะใช้พวกปะเก็นธรรมดาที่ทำจากวัสดุพวก Asbestos (ใยหิน) จำเป็นจะต้องใช้พวกที่มีแผ่นเหล็ก หรือเส้นลวดอยู่ระหว่างกลางของมันด้วย เพื่อให้สามารถทนแรงดันได้ดีขึ้น และหากจะให้สมบูรณ์จริง ก็ต้องทำกรอบแผ่นเหล็กบาง ๆไว้ทั้งด้านหน้าและหลังอีกทีเพื่อกันการฉีกขาด

ส่วนไอเสียที่ออกมาตามความเร็วของกังหันเทอร์ไบน์ และการใช้งานของเครื่องยนต์จะมีรอบการทำงานที่ไม่คงที่ ดังนั้นกังหันด้าน ไอเสียบางครั้งก็จะหมุนเร็วกว่าตัวแก๊สไอเสีย และบางทีก็ช้ากว่าจึงทำให้ไอเสียมีการไหลกลับทาง ไปมาตลอดเวลา ซึ่งทำให้ไอเสียมีระยะเดินทางมากกว่าปกติเมื่อเทียบกับการไหลออกเป็นเส้นตรง ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องทำให้ไอเสียสามารถปรับทิศทางการไหลให้เป็นปกติได้โดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการอั้นขึ้นในระบบ

วิธีนี้ทำได้โดยการใช้ท่อไอเสียที่มีขนาดใหญ่ออกจากเสื้อเทอร์ไบน์ ซึ่งหลังจากที่ไอเสีย ได้เปลี่ยนสภาพการไหลแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ท่อขนาดใหญ่อีก จึงสามารถลดขนาดท่อลงได้ เล็กน้อยจนถึงท้ายรถ เพื่อให้สะดวกในการติดตั้งเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ ก็ควรใช้ขนาดเดียวกันโดยตลอด และควรมีขนาดไม่ต่ากว่า 2.5 นิ้ว การลดขนาดท่อไอเสียช่วงที่ออกจากด้านเสื้อเทอร์ไบน์ต้องทำ ให้เป็นลักษณะกรวยลดลงมา ซึ่งมันจะทำให้ไอเสียสามารถไหลออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ

การที่ท่อมีขนาดเล็กลงก็เป็นการลดเสียงดังจากท่อไอเสียลงไปในตัวด้วย ซึ่งบางครั้งหม้อพักไอเสียก็เกือบไม่มีความจำเป็นเลย หม้อพักไอเสียควรเลือกใช้ขนาดที่สามารถติดตั้งเข้าโดยง่าย และไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้แบบไหลผ่านตลอด หรือที่เรียกว่า แบบตรงเสมอไป เพราะหากหม้อพักแบบไส้ย้อนที่ถูกออกแบบมาได้พอดีมันก็ใช้ได้ดีเหมือนกัน

ทั้งนี้สามารถทดสอบได้โดยการติดตั้งเครื่องวัดแรงดันระหว่างเทอร์โบกับระบบไอเสีย หากแรงดันขึ้นน้อยกว่า 1 ปอนด์/ตารางนิ้ว ก็นับว่าหม้อพักใบนั้นโอเค แต่ยุคนี้ส่วนใหญ่ถ้าเป็นเครื่องยนต์ เทอร์โบก็จะต้องจับคู่กับหม้อพักไส้ตรงเพราะเสียงฟังแล้ว “ดุ” กว่านั่นเอง ขนาดที่ใช้ขอไม่ให้ใหญ่เกินไปเป็นพอ เครื่องเทอร์โบความจุ 2,000–2,500 ซีซี. ขนาดท่อก็อยู่ที่ 2.5 – 3 นิ้ว ส่วนพวกบล็อก 3,000 ซีซี. ก็ต้องใช้ขนาด ตั้งแต่ 3 นิ้ว ขึ้นไป

ในการติดตั้งเทอร์โบในรถยนต์บางคันนั้น บางทีเนื้อที่ระหว่างตัวเทอร์โบกับผนังห้องเครื่องด้านที่ต้องต่อ ท่อไอเสียไปท้ายรถอาจมีเนื้อที่น้อย หากนำท่อไอเสียมาดัดแล้วตัดเฉียงแปะเข้าไปอาจทำให้มีอาการไอเสียอั้น ระบายออกไม่ทันได้ จึงต้องมีการขยับขยายที่อยู่ของตัวเทอร์โบด้วยเพื่อให้ท่อไอเสียสามารถ ” ลง” ได้อย่างเหมาะสมและมีขนาดที่พอเหมาะ ซึ่งการจะใช้ขนาดใดขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานและขนาด ของเครื่องยนต์เป็นสำคัญ ถ้าเป็นการใช้งานธรรมดาการใช้ท่อไอเสียที่มีขนาดเล็กหน่อยจะดีกว่า ถึงมันจะทำให้เกิดการอั้นขึ้นที่ความเร็วสูง ๆ แต่ช่วยป้องกัน Overboost หรือการอัดไอดีมากเกินไปของตัวเทอร์โบได้ แต่ถ้าไม่สน ก็เล่นท่อขนาดใหญ่ไปเลย

ที่มา : homebankstore.com