เข็มขัดนิรภัย เรื่องใกล้ตัวที่ต้องรู้ ดูไว้…และใช้ให้เป็นนิสัย

      เข็มขัดนิรภัย (Seat Belt) คือ อุปกรณ์ความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด และเป็นอ็อพชั่นพื้นๆ ที่รถทุกรุ่น ทุกค่ายต้องมี เช่นเดียวกับถุงลมนิรภัยคู่หน้าหรือเบรค ABS โดยเข็มขัดนิรภัยนั้น อย่างที่ทราบกันก็คือ จะช่วยรั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ให้พุ่งไปชนแผงคอนโซล หรือกระจกบังลมหน้าเมื่อเกิดการชน พร้อมกับช่วยลดการกระแทกระหว่างคอกับหมอนรองคอเมื่อถูกชนจากด้านท้าย แถมช่วยลดการบาดเจ็บจากการกระแทกกับถุงลมนิรภัย รวมถึงในรถบางรุ่นยังมีเข็มขัดนิรภัยบริเวณเบาะหลัง ที่ป้องกันการพุ่งชนกับผู้โดยสารตอนหน้าด้วย

          ภายในรถยนต์สมัยใหม่ จะมีเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับเป็นหลัก ซึ่งมีด้วยกันหลายแบบ แต่ในเวลานี้ ระบบดึงกลับที่ได้รับความนิยมจะมีด้วยกันทั้ง 2 แบบ ได้แก่ แบบ ELR และแบบ ALR โดยทั้ง 2 แบบ จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้

 

การทำงานของเข็มขัดนิรภัย ELR
 

          แบบ ELR หรือมีชื่อย่อว่า Emergency Locking Retractor เป็นเข็มขัดนิรภัยแบบรั้งตัวและดึงกลับอัตโนมัติ เมื่อเกิดการชนด้วยกลไกภายในที่เก็บสายเข็มขัด โดยจะมีชุดเฟืองที่ถูกออกแบบมาให้สามารถล็อกเฟืองได้ทันที เมื่อตัวล็อกสายเกิดการเปลี่ยนแปลงองศาจากการถูกดึงอย่างรุนแรง (สังเกตได้ว่าเวลากระชากสายแรงๆ มันจะถูกล็อกทันที) และจะค่อยๆ คลายเฟืองและสายให้อยู่ในสภาพปกติ โดยส่วนมากจะพบได้ในเข็มขัดนิรภัยแบบล็อก 3 จุด ที่เบาะนั่งคู่หน้า, เบาะนั่งริมหน้าต่าง รวมไปถึงเบาะนั่งตรงกลางด้านหลังของรถรุ่นใหม่ จะใช้เข็มขัดแบบล็อก 3 จุด ด้วยเช่นกัน

          ข้อดีของระบบ ELR คือ จะมีอิสระในการเคลื่อนที่ได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะบริเวณที่นั่งคนขับที่ต้องอาศัยกล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมรถ ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการถูกสายรัดได้ดีกว่า รวมไปถึงเข็มขัดนิรภัยแบบนี้ สามารถรองรับการทำงานร่วมกับถุงลมนิรภัยได้อีกด้วย ซึ่งรถรุ่นใหม่จะนิยมใช้กันเป็นจำนวนมาก แต่มีข้อด้อยตรงที่ชุดเข็มขัดจะใหญ่มากและไม่เหมาะสำหรับการใช้ล็อกเบาะนั่งสำหรับเด็ก เพราะคลายตัวได้ง่าย หากต้องการเพิ่มความแน่นหนาก็จะต้องใช้ตัวล็อกสาย (Locking Clip) ร่วมด้วย

เครดิต www.boxzaracing.com