เจาะสเป็ค Nissan Note e-Power และ Leaf

Nissan Leaf 2018 ถูกเปิดตัวไปไม่นาน ทางนิสสันประเทศไทยก็ประกาศเตรียมวางจำหน่าย Note e-Power และ Leaf 2018 ใหม่ล่าสุดทันที เราลองไปดูกันว่ารถทั้ง 2 รุ่นมีจุดเด่นอะไรบ้าง?

Nissan Note e-Power 2018

Nissan Note e-Power 2018 ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา มีความแตกต่างจาก Note รุ่นปกติอยู่ที่ระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วน (EV) แต่ถูกติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร เพื่อใช้ในการสร้างกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ดังนั้น เครื่องยนต์ของ Note e-Power จะไม่ถูกใช้ในการขับเคลื่อนโดยตรง แต่จะใช้เพื่อสร้างกระแสไฟให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าแทน

ขุมพลังของ Nissan Note e-Power 2018 ใหม่ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า (PS) ที่ 3,008 – 10,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 254 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,008 รอบต่อนาที ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า ให้อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 34.0 กิโลเมตรต่อลิตร ตามมาตรฐาน JC08 ของญี่ปุ่น ซึ่งดีกว่ารุ่นปกติที่ทำไว้ 23.4 กิโลเมตรต่อลิตร

สเป็ค Nissan Note e-Power 2018

    เครื่องยนต์: เบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร
    กำลังสูงสุด: 79 แรงม้า / 5,400 รอบต่อนาที
    แรงบิดสูงสุด: 103 นิวตัน-เมตร / 3,600-5,200 รอบต่อนาที
    ระบบขับเคลื่อน: FWD
    กำลังมอเตอร์: 109 แรงม้า / 3,008-10,000 รอบต่อนาที
    แรงบิดมอเตอร์: 254 นิวตัน-เมตร / 0-3,008 รอบต่อนาที

ทั้งนี้ Nissan Note e-Power ใช้การชาร์จด้วยเครื่องยนต์ จึงไม่มีที่เสียบปลั๊กสำหรับชาร์จเหมือนรถไฟฟ้าทั่วไป

Nissan Leaf 2018

Nissan Leaf 2018 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติ ProPilot และระบบช่วยจอด ProPilot Park ซึ่งต่างจากระบบช่วยจอดทั่วไปตรงที่ผู้ขับไม่จำเป็นต้องควบคุมคันเร่งและเปลี่ยนเกียร์ใดๆเลย

Leaf 2018 ติดตั้งระบบคันเร่ง e-Pedal ซึ่งผู้ขับขี่สามารถใช้แป้นคันเร่งในการเร่งความเร็วและเบรกในแป้นเดียวกัน (ให้แรงเบรกสูงสุดราว 0.2G) ซึ่งระหว่างปล่อย e-Pedal ไฟเบรกจะสว่างขึ้นเหมือนกับรถทั่วไป และสามารถหยุดรถจนนิ่งสนิทได้

สเป็ค Nissan Leaf 2018

    ขนาดแบตเตอรี่: 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง
    กำลังสูงสุด: 150 แรงม้า / 3,283-9,795 รอบต่อนาที
    แรงบิดสูงสุด: 320 นิวตัน-เมตร / 0-3,283 รอบต่อนาที
    ระยะเวลาชาร์จ: ชาร์จด่วน 40 นาที (80 เปอร์เซ็นต์)
    ชาร์จปกติ 8 ชั่วโมง (แท่นชาร์ตติดผนังบ้าน 6kW)
    ชาร์จปกติ 16 ชั่วโมง (สายชาร์จมาตรฐาน 3kW)
    ระยะทางที่วิ่งได้: 400 กิโลเมตร

ส่วนการเปิดตัวรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นในไทย จะมีขึ้นเร็วๆนี้ แต่ยังไม่มีกำหนดว่าเมื่อไหร่และมีรายละเอียดต่างไปจากเวอร์ชั่นญี่ปุ่นอย่างไรบ้าง

เครดิต www.sanook.com