เปิดตำรา เคล็ดลับการโมดิฟายรถกระบะ


ในหมู่วัยรุ่นยุคนี้ การที่จะหารถสักคันนึงมาเป็นยานภาหนะคู่ใจ ก็คงเชื่อว่า รถกระบะคงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในใจหลายๆคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถกระบะ All New Isuzu D-Max ที่ถือว่าเป็นปิ๊กอัพที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม แถมยังขึ้นชื่อในเรื่องของความแรงของเครื่องยนต์ และสามารถทำมาโมดิฟายต่อยอดกันได้อย่างไม่ยาก แต่ในวันนี้เราขอเอาใจสาวกเทอร์โบ 3000 ปาก 44 มม. กันบ้างกับเคล็ดลับการโมดิฟายเครื่องยนต์ Isuzu All New D-Max ด้วยเทอร์โบ 3000 ปาก 44 มม. กันแบบไม่ออกทะเล เผื่อที่ท่านใดไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ก็อาจจะนำเคล็ดลับตรงนี้ไปใช้กับรถตัวเองได้ ซึ่งในครั้งนี้เราก็ได้ออกไปเสาะหาเคล็ดลับจากอู่โมดิฟายดีเซลชื่อดังมากมาย และนำมารวมรวบเอาไว้ ส่วนเสต็ปการโมดิฟายรถยนต์ Isuzu All New D-Max เทอร์โบ 3000 ปาก 44 มม. ในพิกัดระดับ 11 วินาที จะเป็นอย่างไร เราไปดูกันเลยครับ

เทอร์โบ

ขึ้นชื่อว่าเป็นรุ่นเทอร์โบ 3000 ปาก 44 มม. สิ่งที่ต้องเปลี่ยนเป็นอันดับแรกก็คงไม่พ้นกับเจ้าตัวเทอร์โบเนี่ยแหละครับ เนื่องจากว่ารถปิ๊กอัพตัวธรรมดา หรือที่เรียกกันแบบชาวบ้านว่าตัวเตี้ยนั้น จะมาในเครื่องยนต์ในขนาด 2,500 cc. ซึ่งเทอร์โบติดรถมามักจะมีขนาดเล็กเกินไป ดังนั้นขาซิ่งทั้งหลายจึงนิยมเปลี่ยนเทอร์โบเป็นของตัวเครื่องยนต์ 3,000 นั่นเอง โดยตรงเจ้าตัวเทอร์โบ 3,000 นี้ในท้องตลาดก็มีให้เลือกมากมายหลายสูตร ไม่ว่าจะเป็นเทอร์โบ 3,000 แท้, เทอร์โบจีนที่มีราคาถูก รวมไปถึงเทอร์โบ 3,000 ที่ได้รับการโมดิฟายตามสูตรสำนักต่าง ซึ่งในส่วนนี้ก็อยู่ที่งบประมาณและความชอบของเจ้าของรถแล้วหล่ะครับ ว่าอยากได้แบบไหน

อินเตอร์คูลเลอร์

ในส่วนของ อินเตอร์คูลเลอร์ เป็นของแต่งที่มักมาคู่กับ เทอร์โบ เนื่องจาก หลักอากาศทำงานของเทอร์โบนั้นจะใช้อากาศที่ดูดออกมาจากภายนอกมาปั่นตัวเทอร์โบ ซึ่งอากาศที่ถูกเทอร์โบปั่นนั้นจะมีความร้อนสะสมมาก จึงทำให้ต้องมีการนำอากาศนั้นไประบายความร้อนก่อน เพื่อที่เครื่องยนต์จะได้รับอากาศเย็นๆเข้าสู่ห้องเผาไหม้ โดยเจ้าตัวอินเตอร์คูลเลอร์ที่แหละครับ จะทำหน้าที่ระบายความร้อนสะสมที่ถูกส่งออกมาจากเทอร์โบก่อนที่จะส่งผ่านเข้าไปยังห้องเผาไหม้ แต่การเลือกใช้อินเตอร์คูลเลอร์ ก็ต้องเลือกใช้ขนาดให้เหมาะสมกับเทอร์โบและอัตราบูสต์ด้วยนะครับ เช่นหากใช้ขนาดที่เล็กไปก็อาจจะเกิดปัญหาเครื่องความร้อน แต่หากเลือกใช้ขนาดที่หนาไป ก็อาจจะมีปัญหาในเรื่องการรอรอบเครื่องยนต์ และอาจจะส่งผลร้ายมากมายผลดีก็เป็นได้

แคมชาร์พซิ่ง


สำหรับในส่วนของแคมชาร์พซิ่ง ก็เป็นอีกชิ้นส่วนนึงที่ขาซิ่งนั้นนิยมเปลี่ยนเข้าไป ก็เพื่อที่จะให้มีการเปิดช่วงไอดี และไอเสียให้นานกว่าเดิม ซึ่งเมื่อมีการเปิดช่องไอดีได้นานกว่าเดิม อากาศที่ถูกดูดเข้ามาก็จะมีปริมาณมากขึ้น ทำให้มีการจุดระเบิดที่รุนแรงมากว่าเดิมและสามารถเพิ่มแรงม้าได้มากขึ้นนั่นเอง โดยในท้องตลาดตอนนี้ หลายๆอู่ต่างก็มีแคมชาร์พซิ่งที่เป็นสูตรของตนเอง ซึ่งแต่ละอู่นั้นแคมชาร์พก็จะให้พละกำลังในช่วงที่แตกต่างกันออกไป ทางเจ้าของรถเองก็ต้องเป็นคนตัดสินใจว่า ชอบแคมชาร์พของทางสำนักไหน หรืออยากได้แรงม้า แรงบิดในช่วงใด

ระบบน้ำมัน


เมื่อเราใส่ แคมชาร์พซิ่ง เข้าไปเพื่อเพิ่มอากาศในห้องเผาไหม้ในรถของเราแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ระบบน้ำมันมีต้องมีการอัพเกรดตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น หัวฉีด ปั๊มน้ำมันดีเซล รวมไปถึงรางน้ำมันดีเซล ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้มีขนาดที่ใหญ่และสามารถฉีดน้ำมันได้มากกว่าเดิม สาเหตุก็เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถฉีดน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้ในอัตราส่วนผสมที่เพียงพอและพอดี ส่งผลทำให้การจุดระเบิดนั้นสมบูรณ์มากที่สุดและสร้างแรงม้าออกมาให้ได้มากที่สุด

กล่อง ECU

สำหรับเจ้ากล่อง ECU ก็อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้อย่างอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นการโมดิฟายเพิ่มเติมเล็กน้อย หรือแม้แต่โมดิฟายแบบจัดเต็มชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น กล่องดันราง กล่องยกหัวฉีด หรือแม้แต่กล่องแบบ Standalone ที่สามารถควบคุมได้ทุกอย่างในกล่องใบเดียว ซึ่งหน้าที่ของ กล่อง ECU ก็มีไว้ปรับจูนละควบคุมการทำงานต่างๆของเครื่องยนต์ให้ออกมามีประสิทธิภาพมากและรีดแรงม้าออกมาได้มากที่สุดนั่นเอง

คลัทช์และระบบส่งกำลัง

ถ้าหากเรามีเครื่องยนต์ที่มีแรงม้ามากๆแล้ว แต่ไม่สามารถถ่ายทอดแรงม้าออกไปที่เพลาขับได้หมดมันก็ไม่ต่างอะไรกับรถยนต์ที่มีแรงม้าน้อยๆ และมันจะเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่าคลัชท์ลื่นอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าหากเราใช้คลัทช์ที่สามารถรองรับกับเสต็ปการโมดิฟายและแรงม้าที่มีออกมาได้แล้ว คุณจะมั่นใจได้เลยว่า ไม่ว่าคุณจะมีแรงม้าเท่าไร มันก็สามารถที่จะปลดปล่อยพลังได้อย่างเต็มที่แน่นอน แต่ถ้าหากใครต้องการหาเวลาในการวิ่งควอเตอร์ไมล์ดีดีแล้วละก็ การเรียงอัตราทดของเกียร์ใหม่ รวมไปถึงการเปลี่ยนเบอร์เฟืองท้าย ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลว แต่อาจจะต้องแลกกับการใช้งานที่ค่อนข้างลำบากในชีวิตประจำวันกันสักนิด เนื่องจากอัตราทดเกียร์สำหรับการแข่งขันมักถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงรอบเครื่องยนต์ที่ให้แรงม้าออกมามากที่สุด และแน่นอนว่ามันคงไม่ใช่ช่วงรอบเครื่องยนต์ที่เราขับปกติอย่างแน่นอน

ระบบช่วงล่าง

หลายๆคนคงคิดว่า ระบบช่วงล่าง นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญซักเท่าไร นอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามเท่านั้น ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะว่าในแข่งขัน ช่วงล่างนั้นเป็นส่วนที่สำคัญรองลงมาจากส่วนเครื่องยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะว่าถ้าหากเราสามารถเช็ทอัพช่วงล่าง ให้สามารถถ่ายทอดแรงม้าจากล้อลงสู่พื้นได้มากขึ้นเท่าไร รถของคุณก็จะยิ่งไปได้เร็วเท่านั้น โดยในปัจจุบัน ตลาดอะไหล่ตกแต่งรถกระบะ ก็มีโช็คอัพมากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งบางยี่ห้อเองก็ออกแบบมาเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะอีกด้วย เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องไปปรับเซ็ทอะไรมากมายเลยครับ

ชุดขยายความจุเครื่องยนต์


สุดท้ายสำหรับผู้ที่ต้องการโมดิฟายเครื่องยนต์ให้มีแรงม้าออกมามากที่สุด การเลือกชุดขยายความจุเครื่องยนต์ คงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะว่ารถกระบะ Isuzu ตัวเตี้ยที่นิยมนำมาตกแต่งกันนั้น เครื่องยนต์เดิมๆจะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2,500 cc. ซึ่งการขยายความจุเครื่องยนต์ จะยิ่งทำให้สามารถเพิ่มได้ทั้ง แรงม้า แรงบิด แต่แน่นอนว่า มันก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และต้องหาอู่โมดิฟายที่ค่อนข้างมีความชำนาญซักเล็กน้อย โดยในปัจจุบัน ก็ได้มีการผลิตชุดขยายความจุแบบสำเร็จรูป ออกจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่เคล็ดลับของแต่ละอู่แล้วหล่ะครับ ว่าจะโมดิฟายเครื่องยนต์ของคุณให้ออกมามีลักษณะนิสัยเช่นไร

เครดิต www.boxzaracing.com