ด้วยความที่ Eco car เป็นรถที่ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นอัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำ ตามหลักเกณฑ์ที่ภาครัฐกำหนดไว้ อีกทั้งยังจำเป็นต้องทำราคาให้เข้าถึงผู้คนทั่วไปโดยส่วนใหญ่ได้ง่าย ส่งผลให้รถยนต์ในระดับนี้มักถูกตัดลดออปชั่นหลายๆ อย่าง ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในยุคปัจจุบันไปมากอยู่เหมือนกัน และที่สำคัญคือผู้ผลิต ต้องลดน้ำหนักตัวรถให้เบาไว้ก่อน เพราะต้องไม่ให้รถมีน้ำหนักมากจนเกิดการกินน้ำมันมากเกินไป

หนึ่งในวัสดุที่มีน้ำหนักมากในรถยนต์นั่นคือวัสดุซับเสียง ซึ่งมีหน้าที่ป้องเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามาในห้องโดยสาร ทว่าเจ้าวัสดุซับเสียงนี้มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ทำให้วัสดุซับเสียงที่ช่วยเพิ่มความเงียบในห้องโดยสาร มักจะไม่ได้ใส่มากับรถยนต์ในกลุ่มนี้ หรือถ้าให้มา ก็ให้มาน้อย

เสียงรบกวนในห้องโดยสาร โดยหลักนั้นมีอยู่ 2 สิ่งด้วยกัน นั่นคือแรงลมที่ปะทะด้านหน้ารถ กับเสียงของยางรถยนต์ของเรา ที่กำลังวิ่งอยู่บนพื้นถนนนั่นเอง โดยเสียงลมปะทะนั้น ถ้าจะลดจริงๆ ก็ต้องทำกันหลายอย่างอยู่ หมดงบประมาณไปมากโข กว่าจะลดเสียงลมลงได้ในระดับหนึ่ง

แต่สิ่งที่ง่ายกว่า และทำได้ในระยะเวลาอันสั้น นั่นคือการลดเสียงรบกวนจากยางรถยนต์ของเราด้วยวิธีการเปลี่ยนไปใช้ยางรถยนต์ประเภทยางเงียบนั่นเอง โดยในครั้งนี้เรามากับยาง Continental ComfortContact CC6 ซึ่งนอกจากมีเสียงรบกวนน้อยแล้ว ยังมอบความนุ่มนวลให้มากกว่ายางเดิมติดรถอีกด้วยนะ

สำหรับการทดสอบครั้งนี้ เรามากับรถยนต์ Honda Jazz GK รุ่นปี 2019 ซึ่งท่านใดที่เคยใช้งานอยู่ น่าจะทราบกันดีว่ารถรุ่นนี้ เก็บเสียงจากภายนอกได้ดีเพียงใด…

เปรียบเทียบระหว่างยางเก่า vs ยางใหม่

ยาง Continental ComfortContact CC6 อัพเกรดความนุ่มเงียบ

ยาง Continental ComfortContact CC6 เป็นยางในกลุ่มนุ่มเงียบ สำหรับรถยนต์ประเภท Eco car – B Segment โดดเด่นด้วยการออกแบบให้มีเสียงรบกวนที่เบาที่สุด ผสานเข้ากับความสะดวกสบายได้อย่างลงตัวด้วยการใส่ Harmonic Comfort Chambers มีหลักการมาจาก Helmoholt resonator เป็นการออกแบบเพื่อการลดเสียงรบกวนที่เกิดจากช่องว่างที่อยู่บนตำแหน่งของไหล่ยางด้านในของดอกยางรถยนต์

ซึ่งเสียงรบกวนดังกล่าว เกิดมาจากล้อและถนนที่ส่งผลให้เกิดคลื่นของอากาศที่ไหล่ผ่านเข้าและออกจากช่องว่างนี้ ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยป้องกันเสียงรบกวนเข้าไปในห้องโดยสาร

“0” dB-Earth เคล็ดลับลดเสียงยาง

ยาง Continental ComfortContact CC6 มีการออกแบบพิเศษบนตัวยางในชื่อว่า “0” dB-Earth อันเป็นรูปทรงพิเศษในร่องยาง ที่ถูกออกแบบมาให้แยกคลื่นเสียงรบกวนออกจากถนน โดยมีการทำงานในขณะที่ยางกำลังหมุนไปบนถนน ตัวรูปทรงนี้จะทำหน้าที่แยกคลื่นเสียงรบกวนที่ออกมาจากร่องดอกยาง และทำให้เสียงรบกวนของยางเบาลงไปในระดับหนึ่ง

CC6 Whisper Compound เสริมความนุ่ม

นอกจากความเงียบที่ยาง Continental ComfortContact CC6 มอบให้ได้แล้ว ยังมีคุณสมบัติเพิ่มความนุ่มนวลให้กับตัวรถอีกตางหาก ด้วย CC6 Whisper Compound คอมปาวน์ยางที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบความนุ่มที่มากขึ้น และปรับให้ดีขึ้นเพื่อถนนที่ขรุขระ เสริมความสบายในการขับขี่ที่มากกว่าเดิม โดยสารประกอบของเนื้อยางนี้จะดูดซับการสั่นสะเทือนของถนน ที่ทำให้เกิดเสียงรบกวน และยังช่วยลดการสั่นสะเทือนเล็กๆ บนถนน ทำให้ยางหมุนไปได้อย่างนุ่มนวล

ทดสอบการใช้งาน

ในการทดสอบการใช้งานจริงหลังจากเปลี่ยนยางมา หากเปรียบเทียบกับยางเดิมจะสัมผัสได้ทันทีว่ายาง ComfortContact CC6 มอบความนุ่มนวลได้มากกว่าอย่างชัดเจน

โดยในการใช้งานจริงของผม หลังจากเปลี่ยนยางมาเมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม จนถึงวันที่เผยแพร่บทความนี้ ก็เป็นเวลา 1 เดือนเศษ ที่ผมขับรถยนต์ที่ใช้ยางคันนี้ไปราวๆ 1,000 กิโลเมตร ซึ่งมันมากพอที่จะจับจุดเด่นต่างๆ ของยางชุดนี้ได้มาก โดยผมใช้งานทั้งในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นในเมืองที่มีการจราจรกันหนาแน่น แถมสภาพพื้นทางก็ไม่ได้ดีมากมาย, ขึ้นทางด่วน และการขับทางไกล

สัมผัสที่ได้รับคือ ยางมอบความนุ่มนวลได้ค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับยางเดิมที่ใช้มา บอกตรงๆ ได้เลยว่ายาง ComfortContact CC6 ให้ความนุ่มนวลที่ดีกว่ามากจริงๆ โดยเฉพาะเวลาขับผ่านพื้นที่ที่มีความขรุขระ หรือถนนที่พื้นทางไม่เรียบเนียนนัก เสียงรบกวนที่ดังขึ้นมาจากเดิมถ้าให้เต็ม 10 เมื่อใส่ยางรุ่นนี้จะเหลือราวๆ 1/4 ของความดังจากเดิม

และอีกสิ่งหนึ่งที่เด่นชัดมากๆ นั่นคือเสียงรบกวนจากยางที่หมุนไปบนท้องถนน หรือที่ภาษาที่เราเรียกกันว่าเสียงยางหอน โดยหลังจากใส่ยาง Continental ComfortContact CC6 สามารถลดเสียงดังกล่าวไปได้เกินครึ่ง ทำให้การขับรถด้วยความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นบนทางด่วนก็ดี หรือการขับทางไกล ช่วยลดเสียงรบกวนเข้ามาในห้องโดยสารได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียวครับ

สรุป ยาง Continental ComfortContact CC6 เป็นยางที่เหมาะสำหรับท่านที่ใช้รถยนต์ Eco car และ B Segment ที่ต้องการยางเน้นความนุ่มและความเงียบในห้องโดยสาร อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างยืนยาว และยังมอบการยึดเกาะถนนที่ดี รวมไปถึงราคาที่ไม่ได้สูงจนเกินไป กับประสิทธิภาพระดับนี้ ไม่ควรพลาดครับ

 

เครดิต www.autospinn.com